The Joint Private Sector 3 Institutes of Tak Province, Thailand
To meet for preparing to offer an issue to meet with Thailand - Myanmar Joint Border Trade Committee ( JBTC) During on 5 - 6 September 2018 in Myawaddy, Myanmar
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมหอการค้าจังหวัดตาก อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน จังหวัดตาก (กกร.ตาก) ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดตาก สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก และชมรมธนาคารจังหวัดตาก ร่วมประชุมหารือประเด็นปัญหาอุปสรรคการส่งเสริมการค้าชายแดน ตลอดจนข้อเสนอแนะต่างๆ ที่นำผลสรุปในการประชุมครั้งนี้เสนอในการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย – เมียนมา (JBTC) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 5 – 6 กันยายน 2561 ณ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา
โดยในที่ประชุมได้สรุปข้อเสนอการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย - เมียนมา (JBTC) ครั้งที่ 2 ดังนี้
1. ขอให้กระทรวงการต่างประเทศของไทย อนุญาตให้ชาวเมียนมาที่ประสงค์เดินทางเข้ามาในประเทศไทยยื่นขอวีซ่าผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์ (E-VISA) สำหรับการเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เช่นเดียวกับประเทศเมียนมา ที่ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถยื่นขอวีซ่าผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์ (E-VISA) เพื่อเดินทางเข้าประเทศเมียนมาได้แล้วในปัจจุบันเพื่อเกิดความสะดวกในการเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศ
2. ผลักดันให้ผู้ถือบัตรผ่านแดน , บัตรผ่านแดนชั่วคราว ที่เดินทางเข้ามาทางด่านพรมแดนแม่สอดผ่านสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมาขอขยายพื้นที่จากเดิมตามบันทึกความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศได้ตกลงไว้โดยในพื้นที่ชายแดนของประเทศไทย ชาวเมียนมาสามารถเดินทางเข้ามาได้ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก (3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่สอด , อำเภอแม่ระมาด และ อำเภอพบพระ) ขอขยายเพิ่มพื้นที่ให้สามารถเดินทางเข้ามาได้ในพื้นที่จังหวัดตากทั้งจังหวัด ส่วนชายแดนของประเทศเมียนมาเดิมกำหนดให้ชาวไทยสามารถเดินทางเข้าไปได้เฉพาะพื้นที่จังหวัดเมียวดี ขอขยายเพิ่มพื้นที่ให้สามารถเดินทางเข้าไปได้ในพื้นที่ รัฐกะหยิ่น (กระเหรี่ยง) และ รัฐมอญ
3. ขอขยายเวลาปิดด่านพรมแดนไทย - เมียนมา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมาด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากเดิมเวลาในประเทศไทยปิดด่านพรมแดนเวลา 20.30 น. ขอขยายเป็นปิดด่านเวลา 22.00 น. และเวลาในประเทศเมียนมาเดิมปิดด่านเวลา 20.00 น. ขอขยายเป็นปิดด่านเวลา 21.30 น. (เวลาประเทศเมียนมาช้ากว่าเวลาประเทศไทย 30 นาที)
4. เร่งรัดการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 2 ให้สามารถเปิดใช้ได้ทั้งฝั่งประเทศไทย และฝั่งประเทศเมียนมา ภายในปี 2561 นี้
5. ผลักดันการทำข้อตกลงหรือการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อให้เกิดการเดินรถขนส่งระหว่างชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยอนุญาตให้รถขนส่งไทยเข้าไปขนส่งสินค้าในพื้นที่ประเทศเมียนมาในระยะทางที่เหมาะสม และอนุญาตให้รถขนส่งของเมียนมาเข้ามาขนส่งสินค้าในประเทศไทยในระยะทางที่เหมาะสม โดยการดำเนินการให้เป็นไปด้วยความสมัครใจของผู้ประกอบการขนส่งทั้งสองประเทศในพื้นที่ชายแดนไทยและเมียนมา
6. ผลักดันให้มีการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ (Central Lab) (สุ่มตรวจสินค้า) เช่น ตรวจโรคต่างๆ (โรคพืช - สินค้าทางการเกษตร , โรคสัตว์ (สินค้าปศุสัตว์ , ประมง) และสินค้าอื่นๆ เพื่อให้สามารถตรวจสอบร่วมกันได้ ณ ด่านชายแดน ระหว่างประเทศไทย และประเทศเมียนมา ในลักษณะศูนย์ตรวจร่วมของทั้งสองประเทศ





