พม่าปัดขนสินค้าลงเรือข้ามน้ำเมย รอสะพานเสร็จ-จัดระบบการค้าใหม่ 
 |
|
การประชุมร่วมหารือกรณีการซ่อมแซมสะพาน มิตรภาพไทย-พม่า โดยพม่ายินดีในการซ่อมแซมทุกประการ โดยให้ฝ่ายไทยเป็นผู้ดำเนินการและงบประมาณ | |
 |
 | ไทย/พม่า ตกลงซ่อมสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำเมย ให้ใช้ได้ชั่วคราวก่อน หลังสิ้นฝนจึงจะเริ่มซ่อมใหญ่อีกครั้ง คาด ใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ เปิดใช้ได้อีกครั้ง ขณะที่ทางการพม่าปัด เปิดช่องทางขนส่งสินค้าทางเรือแทนข้ามสะพาน ยันให้รอสะพานเสร็จ พร้อมระเบียบการค้าชายแดนใหม่ ส่วนค้าชายแดนแม่สอดชะงัก พม่าห้ามนำเข้าสินค้าทุกชนิด นายวัชระ แตงฉ่ำ แขวงการทางตากที่ 2 แม่สอด เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีสะพานมิตรภาพ ไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เชื่อมจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า เกิดการชำรุด จนต้องประกาศปิดการจราจรด้วยรถทุกประเภท แต่ยังสามารถเดินข้ามไปมาได้ตามปกติ ว่า จากปัญหาดังกล่าวได้มีการประชุมเพื่อหารือร่วมระหว่างฝ่ายไทยและพม่า ฝ่ายไทยนำโดย นายปิยวัฒน์ นิยมฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ประชุมร่วมกับฝ่ายพม่า นำโดย Deputy Minister for Foreign Affair, Maung Myint โดยมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ฝ่ายปกครอง หอการค้า และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2549 ทั้งนี้ วิศวกรของทั้งสองฝ่ายตกลงให้ดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็ว เบื้องต้นเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้การข้ามแดนของประชาชน และการใช้รถบรรทุกขนาดเล็กขนส่งสินค้าได้ คาด จะเริ่มได้ทันทีภายใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนการซ่อมถาวรจะเริ่มเมื่อสิ้นฤดูฝน นายวัชระ บอกอีกว่า การชำรุดของสะพานเกิดจากเสาช่วงที่ 9 เกิดการทรุดตัว และเอียงไปทางพม่าราว 2-3 องศา ทำให้คานที่รองรับพื้นสะพานเคลื่อนตาม หากไม่หาวิธีหยุดยั้ง จะทำให้พื้นหลุดจากคานได้ ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากปัจจัยธรรมชาติจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นหลายครั้งก่อนหน้านี้ ส่วนการซ่อมแซม วิศวกรไทย และพม่า จะร่วมดำเนินการ โดยฝ่ายไทยใช้งบประมาณของกรมทางหลวงทั้งหมด สำหรับวิธีการซ่อมแซมสะพานมิตรภาพ ไทย-พม่า ชั่วคราว จะเสริมคานชุดที่เคลื่อนห่างกันให้กว้างมากขึ้น โดยจะใช้เวลาทำงานไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลังซ่อมชั่วคราวแล้ว จะให้รถบรรทุกไม่เกิน 1 ตัน และรถเข็นโดยแรงคน ใช้สะพานได้ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบฐานรากของตอม่อ ที่รองรับเสาที่ทรุดไปด้วย ขณะซ่อมชั่วคราว เพื่อดูว่ายังใช้ได้ หรือชำรุดอย่างไร หากชำรุดจะก่อสร้างเสริมรอบฐานตอม่อ เพื่อให้สามารถใช้การได้ จนกว่าจะมีการซ่อมแซมถาวรต่อไป นายอำพล ฉัตรไชยาฤกษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผยว่า จากปัญหาการค้าชายแดนที่ชะงักงันอย่างมาก อันเกิดจากปัจจัยภายในประเทศพม่า และการกีดกันสินค้าจากไทย รวมถึงผลกระทบจากการปิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เพื่อทำการซ่อมแซมนั้น ล่าสุด ได้มีการประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศของพม่า เพื่อหารือเกี่ยวกับการค้าชายแดน ทั้งนี้ ได้ขอให้พม่าผ่อนผันการนำเข้าสินค้าจากไทย เพราะขณะนี้พม่าระงับนำเข้าหมด ทั้งสินค้าในบัญชีห้ามนำเข้า และสินค้าอื่น เพื่อขอให้มีการผ่อนผันการนำเข้าสินค้านอกบัญชีห้ามนำเข้า อีกทั้งทางหอการค้าและผู้ประกอบการ ได้หารือว่าขณะการซ่อมสะพานยังไม่เสร็จ จึงขอให้พม่าอนุญาตให้ขนสินค้าทางท่าเรือได้ เมื่อการซ่อมเสร็จแล้วก็จะขนส่งทางสะพานตามปกติ เดิมสินค้าที่ผู้นำเข้าขออนุญาต เคยได้รับอนุญาตจากรัฐบาลพม่า ภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลังการขอ แต่ปัจจุบันใช้เวลานานถึง 2 เดือน เนื่องจากต้องส่งไปให้เมืองหลวงใหม่ ที่เมืองเปียงมานา และเรื่องการท่องเที่ยว ขอให้นักท่องเที่ยวไทยที่ท่องเที่ยวทางรถยนต์เข้าไปได้มากกว่าเดิม โดยฝ่ายไทยเสนอให้นักท่องเที่ยวพม่า เข้ามาถึงตัวเมืองตาก และเขื่อนภูมิพล ที่ อ.สามเงา เพื่อให้ประชาชนสองฝั่งได้ร่วมฉลองการก่อสร้างทาง 18 กิโลเมตร ช่วงเมียวดี-ตะนาวศรี ที่ก่อสร้างเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม ล่าสุด ได้รับการชี้แจงว่า เรื่องการค้าชายแดนที่ระงับการนำเข้าขณะนี้ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งแก้ไข คาดว่า จะกลับสู่ปกติเร็วๆ นี้ ส่วนการใช้ท่าเรือขนส่งสินค้า กระทรวงการต่างประเทศพม่า แจ้งว่า การซ่อมแซมสะพานใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ เมื่อแล้วเสร็จก็สามารถขนสินค้าได้ตามปกติ ในขณะที่การปรับปรุงระบบการค้าชายแดนภายในประเทศพม่า ก็จะแล้วเสร็จในเวลาใกล้เคียงกัน การใช้ทางเรือคงไม่จำเป็น นายอำพล บอกอีกว่า สำหรับการขออนุญาตนำเข้าสินค้ายังประเทศพม่า ได้รับการชี้แจงว่า ตอนนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังปรับปรุงให้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับระบบการค้าชายแดน ต่อไปเชื่อว่าจะเร็วขึ้น ส่วนเรื่องการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว ทางพม่าแจ้งว่า สถานการณ์สู้รบในพื้นที่ยังไม่สงบยังไม่เหมาะที่จะเปิดให้ท่องเที่ยว แต่หากเป็นไปได้อาจเปิดพื้นที่ใกล้กับเมืองเมียวดี ซึ่งไม่ห่างจากชายแดนไทย-พม่า มากนัก อย่างไรก็ตาม ทางหอการค้าจังหวัดตากจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้มีการหารือไปยังรัฐบาล ในการหารือร่วมในระดับสูงต่อไป | |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ |
1 สิงหาคม 2549 18:59 น. | |