ก๊วนไฮโซทึ้งค่าเสียงดัง +ประยุทธ มหากิจศิริ สุวรรณ วลัยเสถียร ล่ำซำ-ศรีวิกรม์ ติดโผรับชดเชยสุวรรณภูมิ 
ก๊วนไฮโซทึ้งค่าเสียงดัง +ประยุทธ มหากิจศิริ สุวรรณ วลัยเสถียร ล่ำซำ-ศรีวิกรม์ ติดโผรับชดเชยสุวรรณภูมิ |
|
ลูกบ้านไฮโซ"กรีนวัลเล่ย์" ยื่นไม้ตายบีบทอท.รับซื้อคืนคฤหาสน์หรูหลังละ100ล้านบาท
เผยมหาเศรษฐี-นักการเมืองดัง อย่าง "ประยุทธ มหากิจศิริ- สุวรรณ วลัยเสถียร-โพธิพงษ์ ล่ำซำ ตระกูลศีรวิกรณ์ -กลุ่มมหาจักร ติดโผได้รับผลกระทบเสียงดังหมด ขณะที่วงในเผยระดับบิ๊กเป็นแนวร่วมเงียบๆ เรียกร้องให้ทอท.รับซื้อทั้งโครงการ ฮึ่ม ! ขีดเส้นตาย 20 ธ.ค. ไม่มีอะไรคืบ ผนึกพันธมิตร 20 หมู่บ้าน เปิดไฟหน้ารถประท้วงปิดล้อมสนามบิน
จากปัญหาความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชย ทั้งซื้อคืนและปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง ให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทางเสียงรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน):บมจ. หรือ ทอท. โดยเฉพาะคำพูดที่พลเรีอตรี ธีระ ห้าวเจริญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาปัดว่า งบประมาณ 7,000 ล้านบาท ตามผลการศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่อ่อนไหว สูงเกินไป และที่สำคัญคณะรัฐมนตรี(ครม.)ยังไม่มีมติเห็นชอบแต่อย่างใดนั้น
**กรีนวัลเลย์"ฮึมบีบทอท.รับซื้อทั้งโครงการ
ต่อเรื่องนี้ นาย มานิต เปียทอง ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร กรีนวัลย์เล่ย์ ตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่15 เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้ลูกบ้านเกือบทั้งหมดในโครงการจำนวน 108 หลังคาเรือน ต้องการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ให้กับทอท.รับซื้อที่ดินในราคาตลาด เนื่องจากไม่สามารถทนต่อผลกระทบจากมลพิษทางเสียงที่เกิดจากการขึ้น-ลงของเครื่องบินได้ เพราะอยู่ในแนวร่องเสียงเฉลี่ย(NOISE EXPOSURE FORECAST ) NEF 35 ที่ถือว่าได้รับผลค่อนข้างรุนแรง เพราะที่ดินบริเวณดังกล่าวหากประกาศขายก็คงไม่มีใครสนใจซื้อ
นอกจากนี้ยังทราบว่า ในอนาคตทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะห้ามก่อสร้าง อาคารเพิ่มทุกประเภท ที่สำคัญมีลูกบ้านที่ซื้อที่ดินเปล่าทิ้งไว้ แปลงละ เฉลี่ย 1 ไร่เศษ อีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัย ดังนั้นทางทอท. ควรจะซื้อคืนจะเหมาะสมที่สุด เพื่อความเป็นธรรมสำหรับลูกบ้านในโครงการ
อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาลูกบ้านในโครงการกรีนวัลเลย์ มีการรวมตัวกันเรียกร้องขอความชัดเจนจากทอท.มาโดยตลอด ซึ่งได้รับคำยืนยันจากทอท.ว่า จะต้องติดตั้งเครื่องวัดระดับเสียงบริเวณหมู่บ้านในขณะที่เครื่องบินขึ้นลงก่อน ว่าอยู่ในเกณฑ์ไหน หากวัดได้เกิด NEF 40 ก็จะซื้อคืน แต่ต่ำกว่า NEF ตั้งแต่30-40 ก็จะซ่อมแซมติดวัสดุป้องกันเสียงให้ แต่ลูกบ้านกลัวว่าทอท.จะหลบเลี่ยงในช่วงวัดระดับเสียงด้วยการปรับการบินใหม่เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง เกินกว่าที่กำหนดไว้ เพื่อต้องการเลี่ยงจ่ายค่าชดเชยตามเกณฑ์ที่วางไว้
"หากเป็นเช่นนี้จริงมองว่าจะไม่มีความเป็นธรรมให้กับลูกบ้านในโครงการ ซึ่งล้วนเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียง คนมีระดับมหาเศรษฐีระดับประเทศ"
อนึ่ง หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ฯ เป็นของนายชนัฎ เรืองกฤตยา นักพัฒนาที่ดินชื่อดังรุ่นลายครามคนหนึ่ง ที่มีโครงการพัฒนาที่ดินทั้งในรูปแบบบ้านจัดสรรและสนามกอล์ฟหลายโครงการในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัด กล่าวได้ว่าเป็นแลนด์ลอร์ดที่มีที่ดินอยู่ในมือมากที่สุดอีกรายหนึ่ง
***นักธุรกิจ-การเมืองดังซื้ออยู่เพียบ
นายมานิต กล่าวให้รายละเอียดต่อว่า สำหรับหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ เป็นโครงการขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ 1,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านจัดสรรสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮโซ คนเด่น คนดัง มหาเศรษฐี รวมถึงนักธุรกิจ นักการเมืองที่มีชื่อเสียง ระดับประเทศมาอยู่รวมกัน โดยก่อสร้างเป็นคฤหาสน์เฉลี่ยหลังละ 1 - 7 ไร่ โดยราคาที่ดินปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 28,000-30,000 บาท/ตารางวา เทียบจากเดิมเมื่อปี 2537 ที่มีการซื้อ-ขายบ้านและที่ดินหลังสุดท้ายในโครงการ ราคาเฉลี่ย 15,000 ต่อตารางวา
สำหรับกลุ่มนักธุรกิจและนักการเมืองชั้นนำ ที่ซื้อบ้านและที่ดินในโครงการกรีนวัลเลย์ อาทิ นายประยุทธ มหากิจศิริ .อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เจ้าของธุรกิจหมื่นล้านกาแฟเนสเล่ท์ เจ้าของธุรกิจเหล็กไร้สนิมรีดเย็น และทองแดงบริสุทธิ ฯลฯ โดยนายประยุทธ ได้ซื้อที่ดินพร้อมคฤหาสน์หลังใหญ่ที่สุดบนเนื้อที่ 7 ไร่ รวมถึงดร.สุวรรณ วลัยเสถียร เจ้าของพอตเก็ตบุ๊ก "พ่อรวยสอนลูก" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตโฆษกประจำตระกูล ชินวัตร ซื้อที่ดินเปล่าทิ้งไว้ จำนวน1 ไร่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ปลูกสร้างบ้าน
นอกจากนี้ยังมีทายาทในตระกูลล่ำซำ เจ้าสัวแบกง์กสิกรไทย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาซื้อทีดินและสร้างคฤหาส์ไว้แล้วบนเนื้อที่ 2 ไร่ ต่อมาตระกูลศรีวิกรณ์ นายชัยยุทธ์ ศรีวิกรณ์ และกลุ่มตระกูลมหาจักร นักธุรกิจเครื่องเสียงรายใหญ่ของประเทศ หรืออย่างดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จากพรรคประชาธิปัตย์ เนื้อที่ 1-2 ไร่ เป็นต้น
***ระดับบิ๊กหนุนหลังเรียกร้องขอค่าชดเชย
นายมานิต กล่าวต่อว่า กลุ่มระดับผู้ใหญ่ดังกล่าวต่างก็ได้รับผลกระทบต่อมลพิษทางเสียงเช่นเดียวกันกับลูกบ้านทั่วๆไป เพราะเครื่องบิน-ขึ้นลงผ่านหลังคาบ้าน แต่ก็ไม่ได้เครื่องไหว แต่อย่างใด เพียงแต่อยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนอยู่เงียบๆ ให้กับกลุ่มลูกบ้านที่ออกมาประท้วงทอท.และรัฐบาลเพื่อขอความเป็นธรรมเพื่อให้ได้รับค่าชดเชยมากที่สุด เพราะถือว่าได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ ดร.เกรียงศักดิ์ ได้ให้เลขาฯส่วนตัว เข้ามาสอบถามถึงความคืบหน้า ความเคลื่อนไหวของข่าวการจ่ายค่าชดเชยอยู่เรื่อยๆ เป็นต้น
***ไม่จ่ายหลังละ100ล้านฟ้องศาลแน่
ส่วนความเคลื่อนไหวกลุ่มลูกบ้านในโครงการหมู่บ้านอื่นๆที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางเสียงเช่นเดียวกัน จากการสำรวจของ"ฐานเศรษฐกิจ"พบว่าได้มีลูกบ้านหมู่บ้านชัยพฤกษ์, หมู่บ้านบุศรินทร์ บริเวณถนนเทพารักษ์ ของบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์จำกัด(มหาชน) , หมู่บ้านร่มสุขวิลเลจ4 ,หมู่บ้านร่มฤดี , หมู่บ้านสราญวงศ์ และอีกหลายหมู่บ้านได้รวมตัวกันเป็นพันธมิตรเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในการเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากทอท.
สอดคล้องกับ นาง สุชาดา นันทะพานิชสกุล สมัชชาแห่งชาติสาขาอุตสาหกรรม จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าของโรงงานอุตสหากรรม และในฐานะแกนนำลูกบ้านหมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ หมู่บ้านและชุมชนในโซนอ่อนไหว ไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ กล่าวว่า มีบ้านที่อยู่ในแนวร่องเสียงเกิน NEF 40 อยู่จำนวน 25 หลังคาเรือนขนาดเนื้อที่ 1 ไร่ เศษ และต้องขายให้กับทอท. โดยราคาเฉลี่ยที่เสนอขายตั้งแต่ 50 -100 ล้านบาท เพราะที่ดินค่อนข้างราคาแพงเฉลี่ย 28,000 -30,000 บาท อีกทั้งบ้านแต่ละหลังค่อนข้างใหญ่ ก่อสร้างและใช้วัสดุอย่างดีจากต่างประเทศ ดังนั้นราคาระดับนี้ถือว่าเหมาะสมแล้ว เพื่อแลกกับคุณภาพชีวิตที่เสียไป
ต่อข้อถามที่ว่าหากไม่จ่ายในราคาที่กำหนดจะทำอย่างไร นางสุชาดากล่าวว่า คงจะฟ้องร้องต่อศาลต่อไป
อย่างไรก็ดี ได้เสนอว่า พื้นที่รอบสนามบินสุวรรณภูมิรัศมี 2 กิโลเมตรทางทอท.ควรตัดสินใจซื้อทันที โดยไม่ต้องจ้างศึกษาและวัดระดับเสียงกันใหม่เพราะเสียงดังอยู่แล้ว ส่วนถัดออกไปในรัศมีตั้งแต่ 7-10 กิโลเมตรควรจะชดเชยด้วยการซ่อมแซมและติดตั้งวัสดุกันเสียงทันทีได้เลย ทั้งนี้จากการรวบรวมตัวเลขเบื้องต้นสำหรับหมู่บ้านจัดสรร 20 กว่าโครงการที่เดือดร้องจะมี จำนวน 2,000 หลังคาเรือนและบ้านชาวบ้านทั่วไป 3,000 หลังคาเรือน
***ขีดเส้นตาย 20ธ.ค.ไม่ชัดเจนปิดสนามบิน
นางสุชาดา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้แล้ว ได้ยื่นหนังสือขอความชัดเจน ต่อรัฐบาลและ ทอท.ว่า ภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2549 จะต้องได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าแต่ละหมู่บ้านจะได้รับค่าชดเชยอย่างไรในลักษณะไหน หากไม่ชัดเจน ลูกบ้านของกรีนวัลเลย์ และลูกบ้านอื่นทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 10-20 หมู่บ้านอีกทั้งชาวบ้านในระแวกนั้น จะรวมตัวกันขับรถเปิดไฟหน้ารถปิดล้อมทางเข้า-ออกสนามบินทันที
เพราะขณะนี้ลูกบ้านเริ่มเครียด ป่วยทางจิตมากขึ้น มีอาการหงุดหงิด ครอบครัวแตกแยกเพราะผลกระทบจากเสียงดังนั้นจึงควรรีบแก้ปัญหาด้วย เพราะทอท.สามารถหารายได้จ่ายการให้บริการเชิงพาณิชย์ปีละไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท
***หมู่บ้านชัยพฤกษ์ 2,000 คนเอาด้วย
เช่นเดียวกับ นาย จีระพล ตริตรอง ผู้จัดการนิติบุคคล หมู่บ้านจัดสรร ชัยพฤกษ์ สุวินทวงศ์กล่าวว่า ลูกบ้านไม่ต่ำกว่า 500 หลังคาเรือน 2,000 กว่าคน เดือดร้อนจากเสียง ที่วัดได้ 65 เดซิเบลเอ ขึ้นไป และต้องการให้ทอท.แก้ปัญหาโดยด่วนและจะเชิญลูกบ้านลงซื่อและร้องเรียนทอท. ต่อไป
ส่วนนายธนสาร สาสังข์ แกนนำลูกบ้านในโครงการหมู่บ้านเคหะนคร 2 ได้ทำหนังสือเรียกร้องทอท.ในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ กรณีเร่งดำเนินการชดเชยด้วยการซื้อคืนในราคาตลาด เพราะไม่สามารถทนอยู่ต่อไปไหว
***บอร์ดทอท.เตรียมประชุมสะสางปัญหา
ขณะที่ พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการท่าอากาศยานไทยหรือ บอร์ดทอท. นัดแรกว่าในวันที่ 1ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมบอร์ดอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปในการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ 3 ชุด
ได้แก่ 1.คณะกรรมการดูแลเรื่องผลกระทบของประชาชนที่เกิดจากการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ 2. คณะกรรมการกำกับดูแลในส่วนของความปลอดภัยจากการก่ออาชญากรรมและการก่อการร้ายในสนามบินทุกแห่งที่อยู่ในการดูแลของทอท. และ 3. คณะกรรมการดูแลและตรวจสอบเรื่องการทุจริตฉ้อฉลอันเกิดจากการจัดซื้อจัดจ้าง ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งการจัดตั้งนั้นจะต้องดึงบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมดำเนินการด้วย
|
|