คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
| | |
 |
ตาก - รถรับจ้างริมเมยโวยพม่าแย่งอาชีพ ยื่นหนังสือร้องผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เร่งแก้ไขปัญหาหลังถูกรถรับจ้างพม่ายึดรายได้วันละกว่า 10,000 บาท รายงานข่าวจากจังหวัดตากแจ้งว่า กลุ่มผู้ประกอบการรถสองแถวโดยสารรับจ้างคิวบ้านริมเมยจำนวน 46 ราย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก โดยมีนายบุญเชิด สุขแว่น สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ตาก เขต 2.อ.แม่สอด เป็นผู้รับมอบ เมื่อเร็วๆนี้ หนังสือร้องเรียนดังกล่าวระบุว่า กลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างสองแถวริมเมย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการถูกรถตู้รับจ้างฝั่งพม่ามาแย่งผู้โดยสารทำให้สูญเสียรายได้วันละกว่า 10,000 บาท เดือนละกว่า 300,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่รถรับจ้างสองแถวคนไทยควรจะได้รับ แต่รายได้กลับไปอยู่กับรถตู้พม่า ซึ่งเดิมทีมีประมาณ 10 คัน แต่ขณะนี้มีเพิ่มมากขึ้นกว่า 40 คัน เพราะชาวพม่าเริ่มมาออกรถตู้โดยสารเนื่องจากเห็นว่ามีรายได้ดี ซึ่งหากรถตู้พม่ามีเพิ่มมากขึ้นรถโดยสารสองแถวไทยจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งรายได้และอาชีพ นายสมชาย ยศธนะ แกนนำผู้ประกอบการรถรับจ้างสองแถวริมเมย บอกว่า ขณะนี้รถตู้พม่าที่ฉวยโอกาส นำพ่อค้าและชาวพม่าข้ามฝั่งมาส่งยังตลาด อ.แม่สอด ได้โดยสะดวก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ตามที่ตกลงกันไว้คือรถตู้พม่า จะนำชาวพม่าเข้ามาได้เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้มีการแอบเอาพ่อค้าและชาวบ้านทั่วไปแฝงเข้ามาเพื่อไปส่งซื้อสินค้าและประกอบธุรกิจอื่นๆ ในตลาดแม่สอด ทำให้รถรับจ้างริมเมยคนไทย 46 ราย ขาดรายได้และได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมีรายได้ไม่พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ซึ่งแต่ละวันจะได้คิวเพียงไม่เกิน 2 คิวๆละ 150 บาท เป็นค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆวันหนึ่งๆก็หมด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำข้อปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถโดยสารริมเมย ไปพิจารณาแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนให้ด้วย เพราะรถพม่าเข้ามาฝั่งไทยได้โดยสะดวกและมักไม่มีการตรวจค้น ขณะที่รถฝั่งไทยจะถูกตรวจค้นเป็นประจำ ทำให้คนพม่ามักนิยมที่จะขึ้นรถตู้พม่ามากกว่าทั้งๆที่ค่าโดยสารแพงกว่าเกือบเท่าตัว นายสมชาย ยศธนะ แกนนำผู้ประกอบการฯ กล่าว นายบุญเชิด สุขแว่น ส.อบจ.ตาก เขต 2 อ.แม่สอด กล่าวว่า ปัญหาความเดือดร้อนและผลกระทบที่ผู้ประกอบการรถรับจ้างสองแถวริมเมยได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้นั้นจะได้นำเสนอยัง นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยที่ขาดและสูญเสียรายได้อย่างมาก ซึ่งเป็นรายได้ที่คนไทยควรได้รับ โดยขณะนี้รถตู้พม่าได้จัดคิวรอพักรอที่บริเวณหน้ามินิมาร์ทฮงล้ง และตลาดโลตัส ซึ่งไม่เข้าใจว่าถูกต้องตามระบบจราจรและระบบขนส่งหรือไม่ หากไม่ถูกต้องทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เข้าไปจัดการหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดให้ถูกต้อง และที่สำคัญคือรถโดยสารไทยมักจะถูกหน่วยงานราชการไทยที่เกี่ยวข้องมีการตรวจค้นชาวพม่าอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในขณะที่ไม่ค่อยตรวจรถที่มาจากฝั่งพม่า ทำให้ชาวพม่าได้ใจหันมาใช้บริการรถพม่าเพราะจะได้ไม่ถูกตรวจค้น นายบุญเชิด บอกอีกว่า เดิมทีมีข้อตกลงระหว่างกลุ่มผู้ปะกอบการรถโดยสารไทยกับผู้ประกอบการรถตู้พม่าว่า รถพม่าจะข้ามฝั่งจาก จ.เมียวดี ประเทศพม่าเข้ามาส่งชาวพม่าได้เฉพาะนักท่องเที่ยว ส่วนพ่อค้าและประชาชนทั่วไปจะให้ส่งเฉพาะเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก และให้มานั่งรถโดยสารฝั่งไทย แต่ระยะหลังรถตู้พม่าไม่ทำตามข้อตกลงเดิม กลับมาส่งผู้โดยสารทั้งหมดในตลาดแม่สอดและรับชาวพม่าทั่วไปไปส่งถึงตัวเมืองแม่สอด จนถึงตลาดแม่สอดและที่ห้างโลตัสแม่สอดในราคา 50 บาทต่อคนทั้งขาไปและกลับ ส่วนรถโดยสารไทยนั้นเก็บเพียงเที่ยวละ 10 บาทต่อคนต่อเที่ยว ซึ่งถูกกว่ารถพม่า แต่เจ้าหน้าที่มักเรียกตรวจเฉพาะรถโดยสารไทยและชาวพม่าที่โดยสารมาหากไม่มีหลักฐานการเข้าเมืองก็จะถูกจับ ในขณะที่รถตู้พม่าไม่ค่อยถูกตรวจค้นทำให้ชาวพม่านิยมเสียเงินเพิ่มขึ้นให้รถพม่ามากกว่ารถโดยสารไทย ทำให้ผู้ประกอบการรถสองแถวไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักสูญรายได้เฉลี่ยวันละกว่า 10,000 บาทในขณะนี้
| | |