ชี้ลงทุนมุกดาหาร-สะหวันนะเขตอย่าแข่งกัน ผู้ว่าฯเสนอรัฐหนุนสร้างศูนย์กระจายสินค้า 
ชี้ลงทุนมุกดาหาร-สะหวันนะเขตอย่าแข่งกัน ผู้ว่าฯเสนอรัฐหนุนสร้างศูนย์กระจายสินค้า |
โดย ผู้จัดการรายวัน |
17 ธันวาคม 2549 15:58 น. |
 |
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ภาคเอกชนชี้โครงการลงทุนฝั่งมุกดาหารและสะหวันนะเขต ไม่ควรแข่งขันกันเอง ไทยต้องเน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ผลิตจากเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน และชูธุรกิจบริการท่องเที่ยวเป็นหลัก ด้านผู้ว่าฯเตรียมเสนอรัฐบาลหนุนโครงการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้า เพื่อรองรับสินค้านำเข้า-ส่งออกจากทั่วสารทิศ เบื้องต้นมีเอกชนเสนอที่ดินก่อสร้างแล้ว 2 แปลง หลังเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 -มุกดาหาร-สะหวันนะเขต วันที่ 20 ธันวาคม หลายฝ่ายรวมถึงชาวมุกดาหารเองคาดหวังว่า สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 จะเป็นตัวแปรที่จะขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจมุกดาหารขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทุนใหญ่จากหลากหลายแหล่ง จะเคลื่อนเข้าสู่เมืองชายแดนแห่งนี้ เพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหนาแน่นในพื้นที่ชายแดนบริเวณนี้ นางอีดีธ นามประกาย ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า พื้นที่ชายแดนมุกดาหารไม่เหมาะที่จะมีโครงการลงทุนด้านการผลิตเกิดขึ้น เพราะจะไปซ้ำหรือแข่งกับเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโนในฝั่งแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ซึ่งรัฐบาลลาวกำลังพัฒนาและให้การส่งเสริมการลงทุนอยู่แล้ว จังหวัดมุกดาหารเหมาะที่จะลงทุนธุรกิจที่ต่อเนื่อง จากเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวมากกว่า เช่น อุตสาหกรรมแปรรูป โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์หรือธุรกิจใดก็ได้ ที่สามารถนำสินค้าที่ผลิตฝั่งลาวเข้ามาเพิ่มมูลค่า "ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของนักธุรกิจหรือกลุ่มทุนใหม่ในพื้นที่เลย หลายคนอาจคาดหวังเห็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในมุกดาหาร เพราะมีสะพานเป็นแรงกระตุ้น แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เชื่อว่าคงต้องใช้เวลาสักระยะ นักธุรกิจนักลงทุนเขาอาจกำลังประเมินสถานการณ์อยู่"นายอีดีธกล่าวและว่า ทั้งนี้ หากวิเคราะห์จากศักยภาพทำเลที่ตั้งของมุกดาหาร ซึ่งมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงเป็นแลนด์บริดจ์สำคัญของภูมิภาคนี้แล้ว ธุรกิจบริการการขนส่งสินค้าและธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว มีความน่าลงทุนมากกว่าธุรกิจประเภทอื่น โดยเฉพาะศูนย์กระจายสินค้าหรือ Distribution Center-DC ซึ่งเรื่องนี้จังหวัดกำลังพยายามผลักดันอยู่ ด้านนายบุญสม พิรินทร์ยวง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ระบุว่าที่ผ่านมาได้มีหลายองค์กรศึกษาวิเคราะห์เช่นกัน ว่าหลังเปิดสะพานฯแล้ว มุกดาหารจะได้ประโยชน์เชิงธุรกิจด้านใดบ้าง ซึ่งการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)เองก็ได้ศึกษาออกมาแล้วว่า "ศูนย์กระจายสินค้า"หรือDC มีความเหมาะสมที่จะลงทุนมากที่สุด เนื่องจากสะพานฯเป็นตัวเชื่อมต่อกับถนนหมายเลข 9 ใน สปป.ลาวจดถึงชายแดนเวียดนามและไปสู่ท่าเรือน้ำลึกด่าหนัง ซึ่งท่าเรือน้ำลึกด่าหนังมีศักยภาพสูงมาก ที่จะเป็นเมืองท่าขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศต่างๆ สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว นายบุญสมกล่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาเห็นด้วยและสนับสนุนให้เร่งพัฒนาขึ้นมารองรับกับการขนส่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 อนาคตสินค้าจะหันมาขนส่งผ่านสะพานฯไปลงท่าเรือด่าหนังเพิ่มมากขึ้น เพราะลดต้นทุนขนส่ง และร่นระยะเวลาได้มากกว่าขนไปลงที่ท่าเรือแหลมฉบังหลายเท่าตัว นายบุญสมกล่าวอีกว่า ที่ดินที่ต้องใช้สำหรับการจัดสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ ต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ขึ้นไป ในเบื้องต้นมีเอกชนเสนอเข้าสู่การพิจารณาแล้ว 3 แปลง แต่ละแปลงอยู่ไม่ไกลจากสะพานฯ ที่ดินแปลงแรกเป็นของกลุ่มสหเรืองการเกษตร อดีต ส.ส.นายประมวล โภคสวัสดิ์ และอีกแปลงเป็นของอดีต ส.ว.อำนาจเจริญ และอีกแปลงเป็นที่ของราชการ ประมาณ 500 ไร่อยู่บริเวณทางออกไปอำเภอคำชะอี "โครงการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้ามุกหาร ตามที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษานี้ จังหวัดจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.เป็นวาระพิเศษ เพื่อขอให้รัฐบาลสนับสนุน เพราะหากสามารถสร้างศูนย์กระจายสินค้าได้ จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจการค้าชายแดนมาก"นายบุญสมกล่าวและว่า สำหรับรูปแบบการดำเนินงานโครงการศูนย์กระจายสินค้ามุกดาหาร มีหลายทางเลือก คือ บริษัทเอกชนอาจเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการเองทั้งหมด หรือรัฐบาลร่วมลงทุนกับเอกชน หรือให้รัฐบาลเป็นผู้ลงทุน และให้เอกชนเข้ามาบริหาร ซึ่งในความเห็นของจังหวัด อยากจะให้รัฐบาลเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด นายบุญสม เปิดเผยอีกว่า แนวโน้มธุรกิจค้าชายแดนด้านจังหวัดมุกดาหาร จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่ำ 40 % สินค้าส่งออกจำนวนไม่น้อยจะต้องขนส่งมาข้ามแดนด่านสะพานมุกดาหาร-สะหวันนะเขต เพื่อส่งต่อไปยังท่าเรือด่าหนัง ที่ผ่านมาเฉพาะการขนส่งข้ามแม่น้ำโขงด้วยแพขนานยนต์ เฉลี่ยแล้วแต่ละปีมีมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท
| | |