คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
| | |
 |
"ชายอุ๋ย" แย้มแนวทางบริหารตะกร้าเงิน กระจายความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของไทย ชี้หากจีนขึ้นค่าเงินหยวนจริง ก็จะช่วยลดแรงกดดันด้านเก็งกำไรเงินบาท ความผันผวนจะมีแนวโน้มลดลง งบประมาณจะเริ่มออกสู่ระบบ ทำให้เศรษฐกิจปี 50 ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ยอมรับเสียงอ่อย ปัญหาการเมืองยังต้องลุ้นหนัก ซึ่งเป็นงานที่ไม่ค่อยถนัด ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า ค่าเงินบาทจะเผชิญแรงกดดันด้านเก็งกำไรน้อยลง ถ้าจีนปรับขึ้นค่าเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์อย่างเป็นอิสระมากขึ้น สำหรับกรณีดังกล่าว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงกลไกอัตราแลกเปลี่ยนของจีนจะทำให้สกุลเงินของประเทศอื่นๆ แบกรับภาระน้อยลง เนื่องจากดอลลาร์จะช่วยปรับตัวเลขขาดดุลการค้าและตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ด้านสำนักข่าวต่างประเทศของจีน รายงานในเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ประกาศใช้มาตรการสกัดการเก็งกำไรเงินบาทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า บรรดานักเก็งกำไรจะเคลื่อนตัวไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นมากกว่า สำหรับแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจของไทย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ค่อนข้างพอใจกับทิศทางเศรษฐกิจมากขึ้น หลังได้ผ่านช่วงวิกฤติเงินทุนไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และธปท.ได้ออกมาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้า เพื่อหวังเก็งกำไรค่าเงินบาท เพราะยอมรับว่าเงินทุนไหลเข้าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้กดดันให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นสูงถึง 35.11 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอาจไปถึงระดับ 33 บาท หาก ธปท.ไม่ออกมาตรการควบคุม ซึ่งจะเป็นปัญหาวิกฤตการณ์ต่อการส่งออกอย่างแน่นอน ยอมรับว่าเคยกลัววิกฤติเรื่องค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็สามารถฟันฝ่าปัญหาดังกล่าวมาได้ แม้จะน่วมไปทั้งตัว แต่ก็ถือว่าหลุดบ่วงกรรมยกใหญ่ แต่ก็ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด รมว.คลัง กล่าว ทั้งนี้ เมื่อมองปัจจัยต่างๆ แล้วเห็นว่าปัญหาหลายด้านคลี่คลายไปได้มากขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในปี 2550 จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลงทุนโดยตรงเริ่มเข้ามากขึ้นโดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์ฟอร์ด เริ่มประกาศตัวเข้ามาขยายการลงทุนมากขึ้น รวมทั้งการลงทุนจากกลุ่มต่างๆ ปัญหาเก็งกำไรค่าเงิน งบประมาณรายจ่ายปี 50 น่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาในวันนี้ และระบบขนส่งมวลชนได้เดินตามขั้นตอนมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ตามเป้าหมาย ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจหลายด้านจะดีขึ้น การส่งออกจะได้ตามเป้าหมาย เหลือแต่ปัจจัยทางการเมืองที่ต้องรอลุ้น เพราะเล่นการเมืองไม่เก่งและไม่ถนัด สำหรับมาตรการหรือการแก้ปัญหาต่างๆ ที่สามารถผลักดันได้พร้อมจะเริ่งดำเนินการ และยืนยันคงไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน ดังนั้น ในช่วงปีใหม่นี้ จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้ต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล รมว.คลัง กล่าวทิ้งท้าย
| | |