เกิดเหตุฆาตรกรรม 2 แม่ค้าพลอยชาวแม่สอด ที่ จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นการฆ่าชิงทรัพย์
เมื่อเวลา 01.00 น. วานนี้ (14 มี.ค.) พันตำรวจโทชริส พุทธกูล สารวัตรเวร สถานีตำรวจภูธร อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้หญิงถูกฆ่าตาย 2 ศพ บนถนนลูกรังในป่าสวนยาง หมู่ 1 ต.ควนทอง ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังสายเปลี่ยวในป่าสวนยางพารา พบศพผู้หญิงนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่คนละฝั่งถนน ทราบชื่อนางสุดใจ พรหมดี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/4 ซอยราษฎร์บูรณะ ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีแดง นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดที่กลางศีรษะ 1 นัด ถูกของมีคมปาดที่ลำคอตัดหลอดลมขาด และถูกแทงที่ราวนมขวา 5 แผล กับแก้มซ้าย 1 แผล ส่วนอีกศพทราบชื่อนางสมทรง สุขเนียม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/9 ถนนสวรรค์วิถี ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีแดง นุ่งกางเกงยีนต์ ถูกจ่อยิงที่กลางศีรษะ ราวนมซ้าย และราวนมขวา รวม 3 นัด และถูกแทงที่กลางหลังอีก 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง
ตรวจค้นในตัวผู้ตายไม่พบทรัพย์สินมีค่า มีเพียงโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ตำรวจตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่บันทึกไว้ในเครื่อง จนทราบว่า นางสุดใจ ผู้ตายเป็นภรรยาของนายดาบตำรวจจรัล พรหมดี อดีตตำรวจสถานีตำรวจภูธร อ.แม่สอด ที่เกษียณอายุราชการแล้ว จึงโทรศัพท์ไปติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตายทั้ง 2
พันตำรวจโทอรุณ ร่มศรีนวล รองผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธร อ.ขนอม เปิดเผยว่า จากการสอบถาม นายดาบตำรวจจรัล สามีนางสุดใจ ให้การว่า ภรรยาและนางสมทรง เป็นแม่ค้าขายพลอยและทับทิมรายใหญ่ใน จ.ตาก ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา มีคนโทรศัพท์ติดต่อขอซื้อพลอยและทับทิมจำนวนมาก จากผู้ตายทั้ง 2 รวมมูลค่ากว่า 8 แสนบาท โดยนัดส่งของกันที่ จ.ภูเก็ต นางสุดใจและนางสมทรงจึงนั่งรถทัวร์ออกจาก จ.ตาก เมื่อคืนวันที่ 11 มีนาคม ไปถึงกรุงเทพฯ ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น จากนั้นมีนายหน้าคนกลางขับรถปิกอัพมารับผู้ตายทั้ง 2 เดินทางต่อไป จ.ภูเก็ต เพื่อนำพลอยและทับทิมไปส่งให้กับลูกค้าตามที่นัดหมายกัน หลังจากนั้นนายดาบตำรวจจรัล ก็ไม่ได้ติดต่อกับภรรยาอีก กระทั่งมาพบเป็นศพถูกฆาตรกรรมดังกล่าว
สำหรับสาเหตุของการฆาตรกรรม เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ โดยหลังจากผู้ตายทั้ง 2 นำพลอยและทับทิมไปขายให้ลูกค้าที่ จ.ภูเก็ต แล้วได้เงินมากว่า 8 แสนบาท กลุ่มคนร้ายสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ไปรอรับผู้ตายมาจากกรุงเทพฯ มีไม่ต่ำกว่า 2 คน เห็นผู้ตายมีเงินจำนวนมาก จึงออกอุบายลวงไปฆ่าชิงทรัพย์อย่างโหดเหี้ยม จากนั้นนำศพขึ้นรถปิกอัพไปทิ้งริมถนนลูกรังสายเปลี่ยวเพื่ออำพรางคดี แล้วพากันหลบหนีไป ทางตำรวจสถานีตำรวจภูธร อ.ขนอม จะได้ประสานข้อมูลไปยัง สถานีตำรวจภูธร อ.เมืองภูเก็ต สถานที่ที่ผู้ตายไปขายพลอยให้ลูกค้า และ สถานีตำรวจภูธร อ.แม่สอด สถานที่อยู่ของผู้ตาย เพื่อเร่งหาเบาะแสคลี่คลายคดีต่อไป
|