พม่ามีข่าวดี! ตัน ส่วย แจ้งทูตยูเอ็นพร้อมหารือ ซู จี
พม่ามีข่าวดี! ตัน ส่วย แจ้งทูตยูเอ็นพร้อมหารือ ซู จี |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ |
5 ตุลาคม 2550 03:21 น. |
 |
 |
|
ทูตพิเศษยูเอ็นขณะเข้าพบออง ซาน ซู จี | |
 | เอเอฟพี สื่อรัฐบาลทหารพม่าระบุพลเอกตัน ส่วยได้ยื่นข้อเสนอที่จะพบกับออง ซาน ซู จี หากผู้นำพรรคฝ่ายค้านยอมยุติบทบาทในการสนับสนุนการคว่ำบาตรที่มีต่อรัฐบาลพม่า คำกล่าวของพลเอกอาวุโสตัน ส่วย ผู้นำสูงสุดของพม่าในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลทหารพม่าได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขกลุ่มผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมในเหตุนองเลือดตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาว่า มีทั้งสิ้น 2,093 คน พร้อมยอมรับว่าในจำนวนนี้บางคนเป็นเพียงชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์เฉยๆ ขณะที่ได้มีการปล่อยตัวแล้ว 692 คน ทั้งนี้ผู้นำสูงสุดของพม่าได้ยื่นข้อเสนอที่จะพบกับผู้นำพรรคฝ่ายค้านระหว่างการหารือกับอิบราฮิม แกมบารี ทูตสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อวันอังคาร (2) ที่ผ่านมา พลเอกอาวุโสตัน ส่วยได้กล่าวระหว่างการพบปะหารือกับแกมบารีว่า ออง ซาน ซู จี เป็นผู้ให้การสนับสนุนการเผชิญหน้า การกล่าวให้ร้ายรัฐบาล การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ ต่อรัฐบาลพม่า และได้กล่าวว่า พร้อมที่จะพบกับออง ซาน ซู จี โดยตรง หากผู้นำพรรคฝ่ายค้านประกาศว่าจะยุติการกระทำทั้ง 4 ข้อดังกล่าว สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลทหารพม่าระบุ นอกจากนี้รัฐบาลทหารพม่ายังได้กล่าวหาสื่อต่างประเทศว่าเป็นผู้เติมเชื้อฟืนจนทำให้ประชาชนเรือนแสนลุกฮือขึ้นมาประท้วงรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การที่ยูเอ็นต้องส่งทูตพิเศษเดินทางมายังพม่าเนื่องจากการรายงานข่าวเพียงด้านเดียวของสื่อต่างประเทศ กระบอกเสียงรัฐบาลทหารพม่าระบุ ขณะที่ชาร์ลส์ เปตรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยูเอ็นประจำพม่า กล่าวว่า รัฐบาลพม่ายอมปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ยูเอ็น วัย 38 ปี คนหนึ่งที่ถูกจับก่อนหน้านี้พร้อมกับญาติและคนขับรถอีก 3 คน เป็นอิสระแล้ว หลังทั้งหมดถูกจับกุมเมื่อวันพุธ (3) ที่ผ่านมา ด้านฌอน แมคคอร์แมค โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลทหารพม่าได้เชิญชารี วิลลาโรซา ทูตสหรัฐฯ ประจำนครย่างกุ้ง เข้าพบที่กรุงเนย์ปีดอว์ ในวันพรุ่งนี้ (5) ซึ่งนับเป็นการหารือทวิภาคีระดับสูงครั้งแรกระหว่างพม่าและสหรัฐฯ หลังเกิดเหตุนองเลือดในพม่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมยังไม่รู้ประเด็นในการหารือครั้งนี้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมที่จะส่งสารไปยังรัฐบาลทหารพม่าเพื่อให้มีการเปิดการเจรจากับกลุ่มต่างๆ และยุติการใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง รวมถึงสนับสนุนการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจและการเมือง ตลอดจนส่งเสริมเสรีภาพและการเปิดกว้างทางความคิดมากขึ้น โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
| | |