สินค้าโอดต้นทุนขยับต่อเนื่อง เตรียมจ่อขึ้นราคาอีก สหพัฒน์ ระบุรัฐควรปล่อยให้สินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด เพราะอำนาจการซื้ออยู่ในมือผู้บริโภค ชี้พร้อมขึ้นราคาค่าขนส่งปลายปี หลังแบกภาระต้นทุนน้ำมันพุ่งมานาน ขณะที่ราคาข้าวถุงปรับราคาเพิ่ม 5-7 บาท ส่วนน้ำมันพืชฉวยโอกาสสินค้าขาดตลาดขึ้นราคา 10-30 บาทต่อโหล ด้าน ดัชมิลด์ดอดปรับราคานมเปรี้ยวขึ้นอีก 1 บาทต่อขวด และโยเกิร์ตขึ้น 2 บาทต่อถ้วย
แม้กรมการค้าภายใน หรือคน.จะมีนโยบายตรึงราคาสินค้าเห็นได้จากการให้สินค้า 13 รายการที่ยื่นขอปรับขึ้นราคา ให้ชะลอการปรับออกไปก่อน อาทิ น้ำมันพืช ปลากระป๋อง แต่จากต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการสินค้าสุดอั้นและเตรียมจ่อคิวที่จะขึ้นราคาสินค้า ทั้งกลุ่มที่อยู่ในและนอกความดูแลของ คน. ซึ่งที่ผ่านมาได้มีสินค้าบางรายการได้ขยับราคาขึ้นไปแล้ว และบางรายการเตรียมที่จะขยับขึ้นเร็วๆนี้อย่างต่อเนื่อง
++สหพัฒน์ขยับค่าขนส่งปลายปี
ซึ่งเรื่องดังกล่าว นายประพจน์ นันทวัฒน์ศิริ กรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค กล่าวกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในการปรับราคาสินค้านั้น รัฐบาลควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหารที่ขณะนี้ประสบกับปัญหาต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาวัตถุดิบและค่าขนส่ง ขณะที่สินค้าในกลุ่มอุปโภค โดยเฉพาะสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน แม้ผู้ประกอบการต้องการปรับขึ้น แต่ก็คงไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง และแม้มีการขึ้นราคา ก็ใช่ว่าจะจำหน่ายได้ เพราะต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบันอำนาจการซื้ออยู่ในมือผู้บริโภค
ส่วนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น มองว่าเมื่อมีขึ้นก็ย่อมมีลง ไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายกังวลเกินเหต โดยสหพัฒน์เอง หลังจากที่แบกรับภาระราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมานาน มีแผนที่จะปรับราคาค่าขนส่งในปลายปีนี้ แต่ยืนยันว่าปรับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบกับทุกฝ่าย
"จริงๆ หากภาครัฐอนุมัติให้ขึ้นราคาสินค้า สหพัฒน์ก็สามารถปรับได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีนโยบายการปรับราคาสินค้า เอาแค่ให้ขายได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว แม้ว่าจะมีสินค้าบางรายการที่ผลิตแล้วประสบกับภาวะขาดทุน โดยเฉพาะผงซักฟอก ที่ต้นทุนเกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันโดยตรง แต่ใช้วิธีการเกลี่ยต้นทุนกับสินค้าอื่นๆ เพื่อให้ทุกสินค้าอยู่ได้ และในส่วนของสหพัฒน์เอง พร้อมยังเดินหน้าแผนการตลาดเช่นเดิม แต่ระมัดระวังค่าใช้จ่ายการตลาดมากขึ้นเท่านั้น" นายประพจน์กล่าว
++ข้าวถุง 5 กก.ขยับราคา 5-7 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้สินค้าหลายตัวจะไม่มีการขยับราคา แต่สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันได้ปรับขึ้นราคาไปแล้ว อาทิ น้ำปลา รวมถึงสินค้าอื่นที่เตรียมปรับราคาเพิ่ม ตั้งแต่มาม่าที่มีแผนจะปรับขึ้น 1 บาทในปลายปี น้ำมันพืชที่รออนุมัติ จากคน. ล่าสุดข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัมก็ปรับราคาเพิ่มเช่นกัน
โดยนายวัลลภ มานะธัญญา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจียเม้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวภายใต้แบรนด์หงษ์ทอง นกกระเรียน นกกระเรียนคู่ กล่าวว่า ราคาข้าวถุงได้ปรับราคาไปแล้วประมาณ 5-7 บาทต่อถุงในช่วงที่ผ่านมา จากราคาจำหน่าย 120 บาท ปรับขึ้นเป็น 125 บาท หรือจาก 125 บาทปรับขึ้นเป็น 130-132 บาท โดยการปรับขึ้นราคานั้น จะเป็นในส่วนของข้าวถุงที่มีสัญลักษณ์รูปพนมมือ เพราะไม่ได้อยู่ในกลุ่มสินค้าควบคุมดูแล จึงสามารถปรับขึ้นราคาได้ทันที
ขณะที่ข้าวถุงที่ไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว การขอปรับขึ้นต้องขออนุมัติจากคน.ก่อน ซึ่งข้าวถุงที่มีสัญลัษณ์รูปพนมมือนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวหอมมะลิและมีหลากหลายแบรนด์ อาทิ ตราดอกบัว,ข้าวตราฉัตร, ตราม้า, ตราบัวมงกุฎ, ตราเกษตร, ข้าวมาบุญครอง, เบญจรงค์, สุพรรณหงษ์, เพื่อนไทย, หงษ์ทอง และโฮมเฟชรมาร์ท
++นม/น้ำมันพืชขยับราคา
ทั้งนี้จากการสำรวจร้านค้าปลีกค้าส่งของ"ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า ราคาน้ำมันพืชได้มีการปรับราคาขึ้นไปแล้ว แม้ว่าทางคน.จะไม่อนุมัติก็ตาม โดยเป็นการขึ้นราคาจากต้นทาง ซึ่งราคาจะขึ้นลงประมาณ 10-30 บาทต่อกล่องบรรจุ 12 ขวด ซึ่งการขึ้นลงดังกล่าวขึ้นอยู่กับตลาดในช่วงนั้นว่า สินค้าขาดตลาดมากน้อยแค่ไหน ถ้าสินค้ามีน้อย ราคาก็จะขยับขึ้นสูงถึง 30 บาทต่อกล่องบรรจุ 12 ขวด ทำให้ทางร้านค้า จำเป็นต้องปรับราคาจำหน่ายขึ้นลงตามต้นทุนดังกล่าว
ส่วนราคานมพร้อมดื่มนั้น ได้ปรับขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นสินค้าสต็อกใหม่ โดยนมยูเอชทีแพค 6 กล่อง ปรับขึ้น 2 บาท นมเปรี้ยวบรรจุขวดและโยเกิร์ตปรับขึ้น 1-2 บาท อาทิ นมเปรี้ยวดัชมิลด์ ขวดเล็กปรับจาก 6 บาท เป็น 7 บาท โยเกิร์ตจาก 12 บาท ปรับเป็น 14 บาทต่อถ้วย ขณะที่สินค้าในกลุ่มขนมขบเคี้ยวนั้น ยังไม่มีการแจ้งปรับแต่อย่างใด
++คน.ยันไม่มีการอนุมัติปรับสินค้า
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทาง คน.ยังไม่มีการอนุมัติปรับสินค้าใดๆ ทั้งสิ้นในขณะนี้ มีเพียงแต่ราคานมที่ปรับขึ้นไปก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ในการขอปรับขึ้นราคาสินค้าของผู้ประกอบการนั้น ทางคน.ยังเน้นย้ำรูปแบบของการขึ้นราคาที่จะต้องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยต้องเว้นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ราคาที่ขึ้นต้องสมเหตุสมผล และเป็นธรรม โดยเฉพาะต้องอิงกับกำลังซื้อของผู้บริโภคและเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งหากมีการปรับขึ้นต้องเป็นหลังการเลือกตั้งผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
ด้านแหล่งข่าวจาก คน. กล่าวว่า ขณะนี้ ทาง กรมการค้าภายใน ยังไม่ได้มีการพิจารณาปรับขึ้นสินค้ารายการใดเป็นพิเศษ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาต้นทุนย้อนหลัง 2 ปีของสินค้าแต่ละรายการว่ามีการปรับขึ้นจริงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคาดว่าการปรับขึ้นต้องรออีกระยะหนึ่ง
|