ในหลวงตรัส "ขอบใจ" ทรงย้ำให้สามัคคีเพื่อประโยชน์ชาติ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ |
5 ธันวาคม 2550 10:08 น. |
 |
 |
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ "ขอบใจ" ผู้เข้าเฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ทรงเน้นย้ำให้ทุกคนตั้งมั่นบนความสามัคคี เพื่อประโยชน์สุขของตนเองและส่วนรวม คลิกที่นี่ เพื่อฟังพระราชดำรัส วันนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่อัฒจันทร์ทิศตะวันออก พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท copyright by manager.co.th จนกระทั่งเมื่อเวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินถึงพระบรมมหาราชวัง และเสด็จออกมุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวังราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่ท้องพระโรงหน้า พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินเข้าเฝ้าฯ ที่แท่นหน้ามุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ ๓ เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ ๒๑ นัด พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้องกลองระฆัง พร้อมกับการประกอบพิธีกรรมของศาสนาอื่นๆ ครั้นสุดเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ ความว่า ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติปราโมทย์ล้นประมาณที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา และได้เห็นใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระพลานามัยสมบูรณ์ ผ่านพ้นโรคาพาธทั้งปวง มาโดยสวัสดี ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จพระบรมราชสมภพในพระบรมราชจักรีวงศ์ อันเป็นอัครขัตติยชาติ ผู้ทรงพระเจริญด้วยพระปรีชาญาณ และเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันบริสุทธิ์ เมื่อเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงปฏิบัติพระองค์และปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อความผาสุกสวัสดิ์ของประชาชน และความมั่นคงของประเทศชาติ ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และพระขันติธรรมอย่างยิ่งยวด พระราชกรณียกิจทั้งนั้นได้ยังประโยชน์ให้เกิดแก่อาณาประชาราษฎร์ และชาติไทยอย่างกว้างใหญ่ไพศาล พระจริยาแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงเป็นบรรทัดฐานอันประเสริฐที่เข้าไทยควรน้อมนำไปประพฤติตนปฏิบัติงานให้บังเกิดศุภผลเป็นความดี ความเจริญแก่ตน ณ แผ่นดินไทย ข้าพระพุทธเจ้าเป็นผู้มีโชควาสนาอย่างยิ่งที่เกิดมาเป็นคนไทยภายใต้พระบุญญาธิการบารมี ได้รับพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุขความเจริญ และมีเกียรติเป็นที่เชิดชู ซึ่งข้าพระพุทธเจ้าสำนึกรู้อยู่ตลอดเวลาด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิตcopyright by manager.co.th ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ จึงขอถวายสัตย์ปฏิญาณด้วยความจริงใจว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะตั้งตัว ตั้งใจให้เที่ยงตรง มั่นคงอยู่ในความสัตย์สุจริต และความสมัครสมานสามัคคี โดยไม่มีอคติครอบงำ จะอดทนอดกลั้น มุ่งมั่นปฏิบัติภาระหน้าที่ที่มีอยู่ให้สมบูรณ์ทั่วถ้วน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของชาติ ศาสนา และจะประพฤติ ปฏิบัติในสิ่งที่ควรปฏิบัติ จะละเว้นในสิ่งที่ควรละเว้น เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ และรักษาไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ กับขอพระราชทานตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ทรงพระเกษมสุข ปราศจากมลทินทุกข์ และพยาธิภัย มีพระราชประสงค์จำนงใดที่จะอำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประเทศชาติ และประชาชน ขอจงสำเร็จศุภผลดังพระราชหฤทัยจำนงทุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้า พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ต่อมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร - พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ความว่าcopyright by manager.co.th ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในนามคณะรัฐมนตรีข้าราชการฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณาแสดงความปีติโสมนัสเป็นล้นพ้น ในท่ามกลางมหาสมาคมของปวงชนชาวไทยในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นี้ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นสมเด็จพระบรมธรรมิกมหาราชาธิราช ผู้ทรงเป็นพระพลังแห่งแผ่นดินทรงไว้ซึ่งพระราชจริยานุวัตรอันสุดประเสริฐ และพระอัจฉริยภาพอันล้ำเลิศ น้ำพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตากรุณา ทรงมุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อขจัดทุกข์ยากน้อยใหญ่ผดุงพสกนิกรร่มเย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืน ทรงนำความเจริญวัฒนา และความอุดมสมบูรณ์มาสู่ผืนแผ่นดินไทยทุกภูมิภาค รวมทั้งทรงปัดเป่าวิกฤติการณ์นานัปการให้ผ่านพ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ตลอดกาลเวลาที่ผ่านมา พสกนิกรทั้งปวงล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่ทรงงานหนัก เพื่ออาณาประชาราษฎร์ และเพื่อบ้านเมืองนับตั้งแต่ทุกคนยังเยาว์วัยตราบจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ยังทรงพระกรุณาทรงงานเพื่อแก้ปัญหาของพสกนิกรทั่วประเทศ ไม่เคยแปรเปลี่ยนแม้ในยามที่ทรงพระประชวรก็ยังทรงห่วงใย เอื้ออาทร พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ราษฎรผู้ประสบปัญหาต่างๆ ตลอดเวลา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม หาที่สุดมิได้ พระราชกรณียกิจอันเป็นคุณูประการยิ่งใหญ่ที่ทรงพัฒนาประชากรและประเทศให้ก้าวหน้า รุ่งเรือง และพระอัจฉริยะภาพส่วนพระองค์ในศาสตร์และศิลป์ต่างๆ รวมทั้งการประดิษฐ์คิดค้นสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ อันทรงคุณค่า เอื้ออำนวยประโยชน์ทั้งแก่พสกนิกรชาวไทยและชาวโลก เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา พลังงานทดแทนไบโอดีเซล ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น เป็นที่แซ่ซ้องสดุดีทั่วไป ทั้งในนานาประเทศ ทั่วโลก ซึ่งต่างทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลเทิดพระเกียรติคุณเป็นจำนวนมาก ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้ประจักอย่างถ่องแท้ว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมิเพียงเป็นสมเด็จพระบรมธรรมมิตรมหาราชาธิราชของชาวไทยเท่านั้น หากทรงเป็นประดุจดวงพระประทีปแห่งมวลมนุษยชาติด้วย เนื่องในมหามงคลอันพิเศษสุดนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอร่วมจิตพร้อม น้อมตั้งสัจจะวาจา ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า จะซื่อสัตย์ จงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกเมื่อ จะยึดมั่นประพฤติตนเป็นคนดีของแผ่นดิน และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนไตรและสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์สากล พร้อมทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช ได้โปรดอภิบาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยสมบูรณ์ สรรพโรคาพยาธิปราศร้างห่างไกลพระองค์ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสัมฤทธิ์สมดังพระราชหฤทัยปรารถนา พระเกียรติคุณเกริกกำจายทุกทิศานุทิศ สถิตสถาพรไพบูลย์ในศิริราชสมบัติ เป็นมิ่งขวัญของอาณาประชาราชตราบจิรัฐิติกาลเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ต่อมา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ความว่าcopyright by manager.co.th ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในนามของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณาแสดงความปลื้มปีติปราโมทย์เป็นล้นพ้น ในศุภมหามงคลวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อันเป็นวาระสำคัญพิเศษยิ่งอีกคำรบหนึ่งของพสกนิกรชาวไทย ด้วยเหตุว่า นอกจากจะดำรงพระชนมพรรษาเสมอด้วยพระชนมายุพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังแสดงถึงความยั่งยืนไพศาลแห่งรัชกาลนับแต่เสด็จขึ้นเถลิงราชสมบัติผ่านพิภพ เมื่อครั้งที่ขณะนั้นยังมีพระชนมพรรษาไม่ถึง 20 พรรษา ตลอดเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณการุญ ภาพอันประเสริฐเปี่ยมล้นด้วยทศพิธราชธรรม จักรวรรดิวัฒน์ และสังคหวัตถุ ทรงเผยแพร่พระเกียรติแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และทรงเป็นศรีสง่าแห่งราชอาณาจักรไทยจนขจรขจายไปในสากลประเทศ ดั่งที่พระราชาธิบดีผู้แทนพระประมุขจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้ถวายราชสดุดีไว้ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตมโหฬารเมื่อปีกลาย สำหรับข้าพระพุทธเจ้าผู้เป็นพสกนิกรซึ่งล้วนเคยรับละอองแห่งพระมหากรุณาธิคุณโดยทั่วกัน ไม่ว่าเป็นส่วนบุคคล หรือส่วนรวมเห็นตรงกันยิ่งไปกว่านั้นว่า ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัปภก ผู้มีพระราชหฤทัยเที่ยงธรรม มีพระราชศรัทธามั่นคง และแตกฉานในธรรมปรัชญา ทรงพระปรีชาในการช่าง การชลประทาน แผนที่ ดนตรี กีฬา งานศิลปหัตถกรรม วรรณกรรม ทรงสนพระราชหฤทัยในนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ด้วยพระราชดำริที่จะทรงนำวิทยาการต่างๆ เหล่านั้นมาใช้แก่ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะผู้ยากไร้ให้บังเกิดความสงบร่มเย็น และความสมบูรณ์พูนสุข สามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสมควรและพอเพียง ด้วยเหตุที่ทรงรักประชาชน ดังนี้พระราชฐานที่ประทับจึงแปลงทดลองทำนาข้าว โรงสี ปุ๋ย โรงงานทำนมผงอัดเม็ด และแหล่งปฏิบัติการทดลองการระบายน้ำ การทำฝนเทียม การปลูกพืชทดแทน ตลอดจนผลิตนานาชนิดก่อนจะนำไปเผยแพร่แก่ประชาชน ห้องที่ควรประทับพักพระราชอิริยาบถ จึงเป็นที่ทรงงาน เวลาที่ควรทรงพระสำราญจึงเป็นยามที่มีพระราชดำริถึงโครงการน้อยใหญ่ในเรื่องน้ำ ดิน การแก้ปัญหาน้ำท่วม และการจราจร พสกนิกรชาวไทยตระหนักแท้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ดังที่เห็นผลอยู่รอบตัว และถ้วนทั่วทุกพื้นที่ อีกทั้งประจักษ์ด้วยความตื่นตัน ดังที่เมื่อครั้งที่อยู่ระหว่างทรงพระโทมนัสในการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชชนนี ก็ยังมีพระมหากรุณาทรงห่วงใยในปัญหาจราจรของชาวกรุงเทพมหานคร และทันทีที่เสด็จออกจากโรงพยาบาลในการรักษาพระอาการเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีพระมหากรุณาตรัสถึงโครงการของกองทัพเรือ แก่ผู้เกี่ยวข้อง และทรงงานทั้งปวงดุจเดิม โดยเฉพาะการทรงลงพระปรมาภิไธยในเรื่องต่างๆ เพื่อไม่ให้กระทบราชการบ้านเมือง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณประเสริฐสุดจะพรรณา เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ข้าพระพุทธเจ้าในนามของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทย ขอตั้งจิตปรารภความมีไมตรีจิต และสมานฉันท์ ประกอบกรรมดีด้วยสัมมาสติ และสัมมาทิฐิ ถวายเป็นราชสักการะ และขอถวายสัจวาจาว่า จะเทิดทูนปกปักรักษาพระบรมเดชานุภาพในทุกทาง ในวาระมหามงคลอันประเสริฐนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระชัยมงคล ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ ได้โปรดอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ปราศจากโรคาพาธทั้งปวง มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ เจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ดำรงอยู่เป็นหลักรวมใจแห่งชาติไทยตราบกาลนานนิรันดร์เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะcopyright by manager.co.th ต่อมา นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ ความว่า ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ในนามของข้าราชการฝ่ายตุลการที่ปฏิบัติราชการสนองพระเดชพระคุณภายใต้เบื้องพระยุคลบาท ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณาแสดงความจงรักภักดีปีติโสมนัส เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย และทรงสถิตอยู่ในดวงหทัยของประชาราษฎร์ตลอดมา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นพระประมุขของประเทศผู้ทรงธำรงอยู่ในราชนิติแห่งธรรมิกราชา เพรียบพร้อมด้วยทศพิธราชธรรม จักรวรรดิวัฒน์ และสังคหวัตถุโดยครบถ้วน ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อผลประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทย และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติตลอดเวลาอันยาวนานที่ทรงดำรงอยู่ในสิริราชสมบัติ พระมหาบารมีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกแผ่ไพศาล บำบัดทุกข์ และบำรุงสุข แก่พสกนิกรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศบังเกิดความร่มเย็นเกษมศานต์ แก่ทวยนครทั่วหน้า จึงทรงเป็นขัตติยะราชแห่งธรรมที่ประชาชนเคราพเทิดทูน และศูนย์รวมของชาติที่ผูกพันสมานใจกายของทวยราษฎร์ให้เกิดพลังยิ่งใหญ่ที่จะสร้างสรรค์จรรโลงไทยให้ยั่งยืนวัฒนา ในงานด้านศาลสถิตยุติธรรมใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงไว้ซึ่งความรอบรู้ในธรรมศาสตร์ และรัฐศาสตร์ อย่างประเสริฐ ได้พระราชทานพระราชดำรัสพระบรมราชวิจารณญาณ และพระบรมราชวินิจฉัยหลายประการที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถในปัญหาต่างๆ ด้านกฎหมายเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพระราชปณิธานสำคัญในการพิทักษ์รักษา และส่งเสรีมความยุติธรรมของประเทศให้รุ่งเรืองสมควรแก่กาลสมัย มีพระราชประสงค์ให้ศาลยุติธรรมเป็นหลักประกันความปลอดภัย และความเที่ยงธรรมแก่ประชาชนMGRอีกทั้งทรงแนะนำตักเตือนเหล่าตุลาการให้ดำรงตนอยู่ในแนวทางที่ถูกที่ควร เพื่อให้กฎหมายคงความศักดิ์สิทธิ์ มีประสิทธิภาพและสร้างศรัทธาในสังคมโปรดพระราชทานปรัชญาแห่งสัจจะ ให้นักกฎหมาย และตุลาการคำนึงถึงครรลองแห่งการรักษาความเป็นธรรมแห่งกฎหมาย โดยมิให้อาศัยเฉพาะตัวบทกฎหมายหรือหลักวิชาการในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น หากต้องผสมผสานด้วยคุณธรรม และความรอบรู้ในสภาวะวิถีชีวิตของปวงชนตามสมัยด้วย จึงจะสามารถธำรงความยุติธรรมให้เกิดแก่พสกนิกรโดยเสมอภาคเท่าเทียมกัน ซึ่งจะนำประเทศให้พัฒนาสู่ความสมบูรณ์และความเป็นปึกแผ่นมั่นคงอย่างยั่งยืน ข้าพระพุทธเจ้าบรรดาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ผู้ปฏิบัติงานในพระปรมาภิไธย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และขอตั้งสัตย์ปฏิญาณด้วยดวงจิตอันมั่นคง ด้วยความสวามิภักจงรักภักดีว่า จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่สนองพระเดชพระคุณในอันที่จะประสิทธิ์ประศาสตร์ความยุติธรรมให้แก่ปวงชนด้วยความเที่ยงธรรม และสุจริตธรรมอย่างเต็มกำลังความสามารถ ในมหาสมัยอันเป็นมิ่งมงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพระกษัตริยาธิราชทุกพระองค์ และอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยอันประเสริฐ ได้โปรดอภิบาลบำรุงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระสุขภาพพลานามัย พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญเพียบพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย สถิตสถาพรในรัตนราไชยศูรย์ยั่งยืนตลอดกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะMGR ภายหลังประธานศาลฎีกา ถวายพระพรชัยมงคลเสร็จ ทหารกองเกียรติยศสามเหล่าทัพ ถวายความเคารพแตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบเพลงสรรเสริญพระบารมีผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ความว่า ข้าพเจ้ามีความปีติ ชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่ท่านทั้งหลายพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด ขอบพระทัยและขอบใจในคำอวยพรอันเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต และความหวังดี ขอทุกท่านจงได้รับพรและไมตรีของข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน บ้านเมืองจะมีความมั่นคงเป็นปกติสุขอยู่ได้ก็ด้วยนานาสถาบันอันเป็นหลักของประเทศ และคนไทยทุกหมู่เหล่ามีความสมัครสมานปรองดองกันดี และรู้จักปฏิบัติหน้าที่ให้ประสาน ส่งเสริมกัน ความพร้อมเพรียงของทุกฝ่าย ทุกคน ที่มีความสำนึกแน่ชัดในหน้าที่ความรับผิดชอบ และตั้งใจปฏิบัติตนปฏิบัติงานให้ดี ให้ประสานสอดคล้องกันนี้ จัดเป็นความสามัคคีอย่างหนึ่ง คือความสามัคคีในชาติ ทุกคนในชาติจะได้ตั้งตน ตั้งใจให้อยู่ในความสามัคคีดังกล่าว ประโยชน์และความสุขจะบังเกิดขึ้นพร้อมทั้งแก่ส่วนตัว และส่วนรวม ประเทศชาติของเราจะสามารถรักษาความเป็นปกติ มั่นคง พร้อมทั้งพัฒนาให้รุดหน้าไปได้ดังปรารถนา ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยสุขสวัสดี สวัสดิ์พิพัฒนมงคลให้สัมฤทธิ์แก่กันทุกเมื่อได้" ภายหลังพระราชดำรัสจบ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้ที่เข้าเฝ้าฯ ต่างพร้อมใจเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ ดังกึกก้อง เมื่อเวลา 12.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระนั่งกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิตcopyright by manager.co.th ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางที่ขบวนเสด็จฯ ผ่าน ประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จต่างตะโกนถวายพระพร ทรงพระเจริญ อย่างเซ็งแซ่ สำหรับกำหนดการพระราชพิธีในช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น ในเวลา16.45น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเวลา17.30น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมณศักดิ์ชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะ
| | | | | | |