ในวันนี้ (วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2552) กระทรวงพาณิชย์ จับมือกับกระทรวงการคลัง และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว หรือ SME Bank) เตรียมปล่อยสินเชื่อเพื่อธุรกิจโลจิสติกส์ 3,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ MLR-3% หวังสร้างสภาพคล่องธุรกิจโลจิสติกส์ไทย ให้เข้มแข็ง และก้าวสู่ระดับสากล ณ ห้องประชุม 11 ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการโลจิสติกส์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทย วงเงินสินเชื่อรวม 3,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาปัญหาผู้ประกอบการด้านการขนส่งและบริการโลจิสติกส์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ และเพื่อลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ อันจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนเพื่อสร้างสภาพคล่อง ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาการจ้างงาน และเพื่อสร้างโอกาสในการปรับปรุงพัฒนากิจการให้มีประสิทธิภาพ สามารถที่จะกลับมาแข่งขันได้ รวมทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเสรีสาขาบริการโลจิสติกส์ ในปี 2556 ภายใต้กรอบการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพื่อให้ธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยสามารถอยู่รอด และแข่งขันกับธุรกิจต่างชาติได้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในปีหนึ่งๆ มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 736,000 ล้านบาท และสร้างมูลค่าเพิ่มรวม 300,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.5 ของ GDP ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน จำนวน16,913 บริษัท โดยธุรกิจโลจิสติกส์ นับว่าเป็นบริการสนับสนุนที่สำคัญของภาคธุรกิจการผลิตและการค้าที่จะช่วยให้ต้นทุนการจัดจำหน่ายและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ ปัจจุบันธุรกิจโลจิสติกส์ของไทย ส่วนใหญ่เป็น SMEs มากกว่าร้อยละ 80 และกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากสภาพการแข่งขันที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในกลุ่มขนส่งทางบก ตัวแทนขนส่งทางเรือ และทางอากาศ บริการพิธีการศุลกากร โดยเฉพาะมีความเสียเปรียบอย่างมากกับบริษัทต่างชาติ รัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหาอุปสรรคในภาคธุรกิจโลจิสติกส์เป็นอย่างยิ่ง จึงมีนโยบายสนับสนุนด้านโลจิสติกส์อย่างจริงจัง ทั้งนี้คณะกรรมการโลจิสติกส์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับกระทรวงการคลัง ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และ 12 สมาคมในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายประดิษฐ์- ภัทรประสิทธิ์) ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนาม MOU เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2552 ซึ่งเป็นการให้สินเชื่อในโครงการปกติของ ธพว.
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับวงเงินสินเชื่อรวม 3,000 ล้านบาท ตามที่ ครม. อนุมัติในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือของทั้ง 2 กระทรวง โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทย และกระทรวงการคลังมอบหมายให้ ธพว. เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ในอัตราดอกเบี้ย MLR -3% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี วงเงินกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท และให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ธพว.ในการอนุมัติวงเงินสินเชื่อต่อราย โดยรัฐบาล ให้เงินชดเชยเป็นค่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้กับ ธพว. ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี และตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไปคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ระยะเวลาการปล่อยสินเชื่อ รวม 5 ปี รวมทั้งให้ ธพว. ผ่อนปรนการค้ำประกันในการปล่อยสินเชื่อโดยสามารถใช้การค้ำประกันไขว้ระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเองได้
ทั้งนี้ โครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทย คาดว่าจะเปิดตัวได้ในวันที่ 20 มกราคม 2553 และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ที่สนใจยื่นขอสินเชื่อสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center 1357
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงการคลัง
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย