ข่าวพลังงานประจำวันที่ 11 มกราคม 2554
ESCC ENERGY News Today
January 11th 2011
ประเด็นข่าว
1. เหนือจรดใต้:จี้เขื่อนแจงแผนรองรับแผ่นดินไหว
2. ชี้'มาร์ค'ตรึงแก๊สจุดระเบิดลูกใหม่ ปตท.ยื่นคำขาดขึ้นเอ็นจีวี2บาท
3. กระทรวงพลังงานมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้ จ.กระบี่ ช่วยลดโลกร้อน ประหยัดค่าไฟฟ้า 7.2 หมื่นบาท/ปี
4. พพ. มั่นใจ ถือฤกษ์สถาปนากรม 58 ปี ลั่นปี 54 เป็นปีกระต่ายเพชรแห่งพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงานของไทย
5. กระทรวงพลังงาน จับมือ “กบนอกกะลา” เปิดตัวหนังสือการ์ตูน เสริมความรู้ด้านพลังงานทดแทน ประเดิมแจกจ่ายทั่วประเทศในวันเด็กแห่งชาติ
6. แปลงเกษตรอัจฉริยะพลังงานโซลาร์เซลล์
7. ญี่ปุ่นและซาอุดิอาระเบียจับมือหาลู่ทางพัฒนาโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกัน
8. พพ.คาดปี 54 ยอดใช้พลังงานทดแทนพุ่งมาที่ 12-14% หลังราคาน้ำมันผันผวน
9. IEC เข้าซื้อหุ้นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ มูลค่า 147 ล้านบาท
10. กบง. อุดดีเซลอีก50สตางค์ รับสภาพเงิน5พันล้าน ประคองไม่เกิน2เดือน เล็งหามาตรการเสริม
11. ลอยตัว LPG
12. เชลล์เตรียมทบทวนขายบี 3
13. 'วรรณรัตน์'ไล่จี้'คลัง'กดภาษีดีเซล
14. กกพ. เปิด 22 บริษัทได้รับคัดเลือกโรงไฟฟ้า SPP รวมรอบแรกรับซื้อ 1,980 MW
15. สกพ.คาดเริ่มประกาศ SPP รอบใหม่ 1,500 MW ราว Q1/54
16. ปตท. สนองนโยบายรัฐ ปรับลดไบโอดีเซล บี 5 ลง 20 สตางค์/ลิตร
17. รมว.พลังงาน ยันไม่ขยายวงเงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเกิน 5 พันล้านบาท
18. บีบรัฐขึ้นราคาเอ็นจีวี 4 บาท ปตท.โอดขาดทุนฉุดแผนขยายปั๊ม
19. รูปแบบใหม่ของสัญญาจ้างบริษัทต่างชาติสำหรับการสำรวจขุดเจาะน้ำมันในประเทศเม็กซิโก
20. กบง. มีมติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันอุดหนุนราคาดีเซล B3-B5 ลิตรละ 50 สตางค์
21. ปลูกปาล์มรังสิต
ข่าวประชาสัมพันธ์
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานขอเชิญร่วมส่งผลงานประกวดสุดยอดรางวัลด้านพลังงานไทยระดับสากล..ลดโลกร้อน “Thailand Energy Awards 2011” ผู้ชนะเลิศรับโล่เกียรติยศจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และเป็นตัวแทนประเทศประกวดในระดับอาเซียน
ดาวน์โหลดข้อมูลและใบสมัครได้ที่ www.energy-awards.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
กองประกวด Tel: 0-2184-2728-32
Fax: 0-2184-2733-4
Mobile: 08-7822-0776
Email: energyawards@able.co.th
---------------------------------------------------------------------
สำนักงานนโยบายและแผนพลัง งาน (สนพ.) จัด "โครงการประกวดบทอาขยาน ประหยัดพลังงาน" มุ่งรณรงค์ปลุกจิตสำนักใน การประหยัดพลังงาน
ผู้สนใจสามารถส่งผลงานอาขยานเพื่อประหยัดพลังงานได้ที่ ตู้ ปณ 2 ปณฝ. คลองกุ่ม กรุงเทพฯ 10244 หรือ www.eppo.go.th/energy poem หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2946-8470
***อ่านรายละเอียดข่าวด้านล่างครับ***
ท่านสามารถติดตามข่าวพลังงานย้อนหลังได้ที่ www.escctcc.com
---------------------------------------------------------------------
“รายละเอียดข่าวพลังงาน”
1. เหนือจรดใต้:จี้เขื่อนแจงแผนรองรับแผ่นดินไหว
นายผสันต์ ธัมปราชญ์ ประธานคณะกรรม การผู้ใช้พลังงาน (คพข.) ประจำเขต 9 กล่าวหลังเป็นประธานประชุม คพข. 4 จังหวัดที่เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ว่า ทุกครั้งที่มีข่าวแผ่นดินไหว สิ่งที่ตามมาคือ ข้อมูลจากนักวิชาการหรือส่วนราชการเกี่ยวกับผลกระทบจากเขื่อนศรีนครินทร์ทำให้ประชาชนกังวลและหวาดกลัว ทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเสียหาย ที่ประชุมจึงมีมติให้ประสานงานกับเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแผนบริหารจัดการเขื่อน การเตรียมความพร้อม และแผนเผชิญเหตุหากเกิดผลกระทบจากแผ่นดินไหว เพื่อนำมาเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเพื่อลดผลกระทบทางจิตใจต่อไป
---------------------------------------------------------------------
2. ชี้'มาร์ค'ตรึงแก๊สจุดระเบิดลูกใหม่ ปตท.ยื่นคำขาดขึ้นเอ็นจีวี2บาท
ปตท.เตือน "มาร์ค" ตรึงราคาแอลพีจีวางระเบิดลูกใหม่ จุดกระแสรถดัดแปลงติดแก๊สทะลักอีก กองทุนน้ำมันฯ แบกหนัก ยื่นคำขาดขอขึ้นราคากิโลละ 2 บาท เพราะขาดทุนปีละหมื่นล้านแล้ว ไม่ให้เลิกลงทุนโยนภาระเปิดปั๊มให้รัฐ
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงนโยบายประชาวิวัฒน์ของรัฐบาลในการตรึงราคาแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) ว่าตอนนี้ปริมาณการใช้แก๊สแอลพีจีเพิ่มขึ้นมากจนต้องนำเข้าสูงถึงปีละ 1 ล้านตัน โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคา ส่วนการปรับโครงสร้างราคาแก๊สแอลพีจีในระยะสั้นคงยังไม่มีการขึ้นราคา แต่ในระยะกลางและยาวควรขยับราคาบ้าง เพราะถ้าไม่ขยับขึ้นเลยจะทำให้ปั๊มแอลพีจีและจำนวนรถใช้ก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้น ซึ่งหนีไม่พ้นที่กองทุนน้ำมันฯ ต้องรับภาระตรึงราคาต่อ
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยตรึงราคาแก๊สแอลพีจีตั้งแต่สมัยราคาน้ำ มันอยู่ที่ระดับ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จนล่าสุดขึ้น 4-5 เท่าอยู่ที่ระดับ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว ยิ่งเป็นการจูงใจให้รถยนต์บ้านหันมาดัดแปลงใช้แก๊สแอลพีจีมากขึ้น
"ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ ในระยะกลางและระยะยาวจะกลาย เป็นปัญหาใหญ่และเป็นระเบิดลูกใหม่อีกครั้ง ส่วนราคาเอ็นจีวีมีต้นทุนเพิ่มขึ้นมากแต่ยังตรึงราคาเท่าเดิม ทำให้ระยะกลางและยาว ปตท.รับภาระไม่ไหว เพราะรับภาระขาดทุนปีละ 1 หมื่นล้านบาท หากปล่อยแบบนี้ทำให้ปี 55 ปตท.ลงทุนไม่ไหว ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องเข้ามารับภาระ เพราะก่อนหน้านี้ ครม.เคยมีมติขึ้นราคาเอ็นจีวีแบบขั้นบันได จนป่านนี้ยังไม่ได้ขึ้น จึงขอประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่าราคาเอ็นจีวีต้องขยับขึ้นบ้าง" นายประเสริฐกล่าว
นายณัฐชาติ จารุจินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กล ยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท. ว่าการตรึงราคาพลังงานทั้งแอลพีจี ทำ ให้ต้องนำเข้าแก๊สแอลพีจีในระ ดับสูงต่อไป จากปัจจุบันอยู่ที่เดือน ละ 1.3 แสนตัน บางเดือนสูงถึง 1.5 แสนตันต่อเดือน ซึ่งในหลักการราคาพลังงานควรปรับ สะท้อนต้นทุนแท้จริงบ้าง อย่าง ประเทศกลุ่มเศรษฐกิจชั้นนำ (จี20) มีมติให้ลดการอุดหนุนรา คาพลังงาน จีนและอินโดนีเซียเริ่มประกาศลดการอุดหนุนเพราะ ไม่เป็นผลดีในระยะยาว ขณะที่ไทยยังอุดหนุนราคาพลังงานจนบิดเบือนโครงสร้าง
"การที่รัฐบาลตรึงราคาแก๊สแอลพีจีที่ระดับ 333 เหรียญ สหรัฐต่อตัน ขณะที่ราคาในตลาดโลกอยู่ที่ 921 เหรียญสหรัฐ ต่อตัน หรือตรึงราคาภาคขนส่ง 18.13 บาทต่อลิตร หากไม่ปรับราคาในภาคขนส่งเลยจะทำให้การใช้แก๊สแอลพีจีในภาคขนส่งสูงขึ้น โดยปี 53 การใช้แก๊สแอลพีจีในภาคขนส่งโต 13% ภาคครัวเรือนโตเพียง 2-3%" นายณัฐชาติกล่าว
ล่าสุด ปตท.เสนอไปยังกระทรวงพลังงานว่า ราคาก๊าซ เอ็นจีวีไม่ควรผูกติดกับราคาแก๊ส แอลพีจี และควรขึ้นราคา 2 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันอยู่ ที่ 8.50 บาทต่อ กก. เพราะต้น ทุนขณะนี้อยู่ที่ 14 บาทต่อ กก. และให้กองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนอีก 2 บาทต่อ กก.จนครบกำ หนดมาตรการตรึงราคาในเดือน ก.พ.54 ซึ่ง ปตท.ได้หารือกับกลุ่มผู้ใช้แก๊สเอ็นจีวีกลุ่มต่างๆ แล้วก็เข้าใจเรื่องที่ ปตท.ขอขึ้นราคาเอ็นจีวีอีก 2 บาทต่อ กก. เพื่อให้มีรายได้ลงทุนปั๊มเอ็นจีวี ครอบคลุมมากขึ้น
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระ ทรวงขอดูมติ ครม.เรื่องนโยบายประชาวิวัฒน์ก่อน ซึ่งแก๊สครัวเรือนและแก๊สรถยนต์ไม่ได้หมาย ความว่าหลังหมดเวลาการตรึง ราคาช่วงเดือน ก.พ.นี้แล้ว รา คาจะไม่ขยับขึ้น แต่ขึ้นหรือไม่ ต้องดูความเหมาะสม และแก๊ส เพื่ออุตสาหกรรมในช่วงการเปลี่ยน ถ่ายเพื่อปรับราคาลอยตัวตามนโย บายนายกรัฐมนตรีในเดือน ก.ค. นั้น กระทรวงพลังงานจะหารือผลกระทบกับภาคอุตสาหกรรม.
---------------------------------------------------------------------
3. กระทรวงพลังงานมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้ จ.กระบี่ ช่วยลดโลกร้อน ประหยัดค่าไฟฟ้า 7.2 หมื่นบาท/ปี
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิธีมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้กับจังหวัดกระบี่ โดยมีนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้รับมอบ
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้กับจังหวัดกระบี่ว่า “กระทรวงพลังงานปรับเปลี่ยนหลอดไฟของศาลากลางจังหวัดกระบี่เป็นหลอดผอมเบอร์ 5 จำนวน 480 หลอด ซึ่งจะช่วยลดงบประมาณในการจ่ายค่าไฟฟ้าได้ถึง 72,000 บาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 12 ตันต่อปี อันจะเป็นตัวอย่างอาคารภาครัฐที่มีการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และลดภาวะโลกร้อน โอกาสนี้ จึงขอความร่วมมือร่วมใจจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของศาลากลางจังหวัดกระบี่ทุกท่าน ได้ดำเนินการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่อาคารอื่นๆ และประชาชนทั่วไปด้วย”
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการใช้พลังงานในอาคารศาลากลางจังหวัดฯ ส่วนใหญ่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก โดยในปี 2552 มีการใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 285,500 หน่วยต่อปี คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 960,000 บาทต่อปี ซึ่งหากแบ่งตามสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าตามระบบต่างๆ พบว่าใช้ในระบบปรับอากาศร้อยละ 55 ระบบแสงสว่างร้อยละ 25 และระบบอื่นๆ เช่น อุปกรณ์สำนักงาน ลิฟต์ ปั๊มน้ำ ฯลฯ ร้อยละ 20 การดำเนินการเรื่องการประหยัดพลังงานที่ผ่านมา จังหวัดฯ ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของกระทรวงพลังงาน ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และสำนักงานพลังงานจังหวัดกระบี่ ในการเผยแพร่ความรู้ในหลายๆ เรื่อง เช่น การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด การจัดทำแผนพลังงานชุมชน เป็นต้น และยังได้รับความอนุเคราะห์จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เข้ามาปรับเปลี่ยนหลอดผอมแบบเดิมเป็นหลอดผอมเบอร์ 5 ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการ และประชาชนผู้มาติดต่อใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น”
กระทรวงพลังงานจะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หลอดฟลูออเรสเซนต์เดิม เป็นหลอดผอมเบอร์ 5 ในอาคารภาครัฐ รวม 680 แห่ง นอกจากนี้ ยังจัดทำ “โครงการส่งเสริมและกำกับดูแลอาคารควบคุมภาครัฐ” เพื่อให้สนับสนุนและช่วยเหลืออาคารควบคุมที่เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอิสระ รวมประมาณ 800 แห่ง ให้สามารถดำเนินการอนุรักษ์พลังงานได้ถูกต้องและครบถ้วนตามกฎหมาย โดยคาดว่า หลังจากเสร็จสิ้นโครงการดังกล่าวแล้ว ในปี 2554 จะสามารถประหยัดพลังงานได้เทียบเท่าน้ำมันดิบประมาณ 25,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 620 ล้านบาทต่อปี และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 147,000 ตันต่อ
---------------------------------------------------------------------
4. พพ. มั่นใจ ถือฤกษ์สถาปนากรม 58 ปี ลั่นปี 54 เป็นปีกระต่ายเพชรแห่งพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงานของไทย
พพ. มั่นใจ ถือฤกษ์สถาปนากรม 58 ปี ลั่นปี 54 เป็นปีกระต่ายเพชรแห่งพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงานของไทย ชี้ยอดการใช้พลังงานทดแทนมีสิทธิ์แตะร้อยละ 12 - 14 หลังพบราคาน้ำมันเริ่มผันผวนรุนแรง เป็นโอกาสทองของพลังงานทดแทน ยันผลักดัน และสร้างจิตสำนึกเยาวชนคนรุ่นใหม่ เห็นคุณค่าพลังงานยิ่งขึ้น
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า โอกาสที่ พพ. ได้มีอายุครบ 58 ปีในปี 2554 นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของส่งเสริมพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบัน พลังงานทดแทนถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่ภาครัฐจะต้องให้ความใส่ใจโดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันที่กำลังมีราคาผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงขึ้นต้นปีใหม่ ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่พลังงานทดแทน จะได้กลับมาอยู่ในกระแสความสนใจของสังคม อีกครั้ง และจะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ พพ.ในฐานะหน่วยงานหลักในการผลักดันพลังงานทดแทนดังกล่าว ต้องเร่งทำงานหนักเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ ในปี 2554 นี้ ภาพรวมของการลงทุนด้านพลังงานทดแทน จะทำให้เห็นภาพปีกระต่ายเพชรแห่งการลงทุนด้านพลังงานทดแทนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากหลาย ๆ โครงการ จะเริ่มมีการลงทุนก่อสร้างจริง และได้เริ่มทยอยเปิดตัวโครงการนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 53 ที่ผ่านมา โดย พพ. คาดว่า การเปิดตัวของโครงการพลังงานทดแทนต่างๆ ตลอดปี 2554 ที่ยังมีอีกหลายโครงการ ฯ จะทำให้ประเทศไทยมียอดการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานทั้งหมด โดยคาดว่าภายในปี 2554 ยอดการใช้พลังงานทดแทน มีโอกาสที่จะปรับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 12 - 14 ของการใช้พลังงานทั้งหมด
โดยในกลุ่มอุตสาหกรรมการลงทุนด้านพลังงานทดแทน ที่ถือเป็นดาวเด่น ได้แก่ กลุ่มผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ ทั้งภาคการผลิตไฟฟ้า ที่ได้รับการตอบรับด้านการลงทุนจนล้นหลาม และน้ำร้อนแสงอาทิตย์ซึ่งถือได้ว่ามีแนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยภารกิจของและมาตรการที่จะสนับสนุนพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงต่อไป เช่น การทบทวนกฎระเบียบ ที่ไม่เอื้อต่อการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านที่พักอาศัย สนับสนุนการติดตั้งใช้ระบบงานน้ำมันร้อนแสงอาทิตย์แบบผสมผสานในธุรกิจเอกชน พัฒนาต้นแบบผลิตน้ำร้อนแสงอาทิตย์ขนาดเล็กราคาประหยัด เป็นต้น
นายไกรฤทธิ์ กล่าวเพิ่มว่า ในโอกาสที่ พพ. ได้จัดงานวันสถาปนากรม ซึ่งใกล้กับวันเด็กแห่งชาติ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา จึงได้จัดกิจกรรม “พพ. อยากเห็นเด็กไทย ก้าวไกลไปกับพลังงานทดแทน” ขึ้น โดยมีการมอบสื่อการเรียนการสอนด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน ให้แก่โรงเรียนโดยรอบสถานที่ตั้งของ พพ. จำนวน 4 โรงเรียน โดยหวังว่าจะเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้เห็นคุณค่าของการใช้พลังงาน และเป็นการให้ความรู้ด้านพลังงานทดแทนที่ถูกต้องแก่เด็กนักเรียนต่อไป
---------------------------------------------------------------------
5. กระทรวงพลังงาน จับมือ “กบนอกกะลา” เปิดตัวหนังสือการ์ตูน เสริมความรู้ด้านพลังงานทดแทน ประเดิมแจกจ่ายทั่วประเทศในวันเด็กแห่งชาติ
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มอบหนังสือการ์ตูนสารคดีเสริมทักษะชุด “เมืองไทย เมืองแห่งพลังงานทดแทน” นำเนื้อหามาจากรายการสารคดีโทรทัศน์ “กบนอกกะลา” โดยมีนางสาวภัทราพร สังข์พวงทอง เป็นบรรณาธิการและผู้เรียบเรียง เพื่อเผยแพร่ความรู้การผลิตการใช้พลังงานทดแทนประเภทต่างๆ ให้แก่เยาวชนในรูปแบบที่สนุกสนาน เข้าใจง่าย ตามโครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง
---------------------------------------------------------------------
6. แปลงเกษตรอัจฉริยะพลังงานโซลาร์เซลล์
นิสิตวิศวกรรมศาสตร์ศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ทีม KU-SRCWIN นำแผงโซลาร์เซลล์มาผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในการพัฒนาชุมชนผ่านระบบแปลงเกษตรอัจฉริยะ คว้ารางวัล รองชนะเลิศจากการประกวดในโครงการ M-150 IDEOLOGY 2010 โซลาร์เซลล์เพื่อชุมชนพอเพียง : SOLAR CELL FOR SELF-SUFFICIENT COMMUNITY ซึ่งจัดการแข่งขันโดย M-150 ร่วมกับบริษัท โอสถสภา จำกัด และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ทีม KU-SRCWIN สามารถเข้าไปถึงรอบ 5 ทีมสุดท้าย และได้เยี่ยมชมบริษัท โซล่า พาวเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเพิ่มเติมความรู้และประสบการณ์ และนำผลงานที่ผ่านการเข้ารอบลงพื้นที่จริงเพื่อจัดสร้างให้กับชุมชนได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
กลุ่มเยาวชนนี้ประกอบด้วย นายฉัตรชัย วงศ์ชนะภัย นายยุวรัตน์ สุขตระกูล นายอัครพงศ์ วงศ์อรุณ นายศราวุธ จันใด นายจุมพล วิชชุกรจิรภัค นายกระแส เตชะศรินทร์ นายนรินธร คณะมูล นายชูเกียรติ มาลัยลอย นิสิตชั้นปีที่ 3 และนายสุรกิจ เที่ยงพลับ นายธนภัทร ทองทรัพย์ นิสิตชั้นปีที่ 2 โดยมีอาจารย์ทวีชัย อวยพรกชกร เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาทีม
โครงงานของทีม KU-SRCWIN เป็นการนำพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์มาพัฒนาเพื่อการสาธารณประโยชน์ของชุมชน โดยลงพื้นที่ ณ โรงเรียนบ้านเก่าค้อ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยเริ่มจากการสร้างระบบต่างๆ รองรับ ได้แก่ ระบบแปลงเกษตรอัจฉริยะ คือ การสร้างบ่อกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนำมาใช้ในการอุปโภคบริโภคและใช้ทำการเกษตรกรรม โดยนำเทคโนโลยี Microcontroller เข้ามาใช้ในการควบคุมเปิด-ปิดน้ำที่ใช้รดแปลงผักโดยอัตโนมัติ ซึ่งขั้นตอนการทำงานจะใช้เวลาและเซ็นเซอร์วัดความชื้นในดินเป็นตัวกำหนดเงื่อนไขการจ่ายน้ำ ระบบบ่อเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ใช้เทคโนโลยีในการวัดระดับปริมาณน้ำสำหรับเชื่อมต่อกับระบบสูบน้ำและระบบแสดงผลพลังงาน
พลังงานตัวนี้ยังเชื่อมต่อกับโครงการระบายน้ำของทางโรงเรียน เพื่อนำน้ำส่วนที่เกินจากความต้องการนำมากักเก็บในบ่อไว้ใช้ในยามขาดแคลน และเป็นการผสานประโยชน์ระหว่างโครงการของทางโรงเรียนกับระบบ น้ำในบ่อน้ำยังสามารถเลี้ยงปลาเพื่อใช้เป็นการเพาะพันธุ์หรือใช้ในการประกอบอาหารกลางวันของทางโรงเรียน ซึ่งมีระบบป้องกันระดับน้ำในบ่อไม่ให้นำไปใช้ในส่วนอื่นจนระดับน้ำไม่พอแก่การเลี้ยงปลาอีกด้วย
ระบบประปาหมู่บ้าน โดยการนำไฟฟ้าที่เหลือใช้จากการใช้ไฟฟ้าโครงการหลักมาใช้กับเครื่องสูบน้ำขนาด 400วัตต์ จำนวน 2 เครื่อง ให้ทำงานควบคู่กับระบบเดิมของทางประปาหมู่บ้าน ช่วยลดระยะเวลาการทำงานของระบบสูบน้ำหลัก คือ ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3 แรงม้า ซึ่งปกติต้องเสียค่าไฟประมาณ 4,500 บาทต่อเดือน เป็นผลให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานไฟฟ้าของระบบประปาหมู่บ้านและชาวบ้านจะได้มีน้ำประปาใช้ตลอดวัน และระบบแสดงผลพลังงาน โดยการนำเทคโนโลยีระบบแสดงผลพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโครงการและแสดงผลระดับน้ำจากแหล่งผลิตน้ำในรูปแบบที่ชาวบ้านสามารถเข้าใจได้ง่าย
นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนและชาวบ้านมีทัศนคติที่ดีต่อการผลิตฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ทำให้ตระหนักถึงคุณค่าในการมีอยู่อย่างจำกัดของพลังงาน และเกิดความภาคภูมิใจในพลังงานที่สามารถผลิตได้ด้วยตนเอง รวมทั้งยังเป็นแหล่งความรู้ของนักเรียนและชุมชนโดยรอบที่สามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ในชุมชนของตนเองตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ ทีม KU-SRCWIN ได้รับของรางวัลเป็นโล่เกียรติยศ พร้อมทุนการศึกษา 20,000 บาท และคณะวิศวกรรมศาสตร์ศรีราชา มก. วิทยาเขตศรีราชา ยังได้รับเงินรางวัลเพื่อสนับสนุนมหาวิทยาลัยอีก 10,000 บาท.
---------------------------------------------------------------------
7. ญี่ปุ่นและซาอุดิอาระเบียจับมือหาลู่ทางพัฒนาโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกัน
ญี่ปุ่นและซาอุดิอาระเบียเห็นพ้องให้ความร่วมมือร่วมกันในการหาลู่ทางก่อสร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ในซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่อากิฮิโร่ โอฮาตะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปึ่น และฮาชิน บิน อับดุลเลาะห์ ยามานี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานใหม่ของซาอุดิอาระเบียได้ประชุมร่วมกัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียวางแผนสร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานไฟฟ้าที่อาจจะขาดแคลนได้ในอนาคตอันเนื่องมาจากจำนวนประชากรที่สูงขึ้น และเพื่อเป็นการอนุรักษ์แหล่งน้ำมันดิบเอาไว้
รมว.เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เสนอการให้ความช่วยเหลือในหลายรูปแบบ เช่น การฝึกอบรมเรื่องเทคโนโลยีการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ และกฎหมายที่สำคัญต่างๆ และยังได้เสนอให้ทั้ง 2 ประเทศลงนามในเอกสารเพื่อเร่งดำเนินการโครงการความร่วมมือดังกล่าว
---------------------------------------------------------------------
8. พพ.คาดปี 54 ยอดใช้พลังงานทดแทนพุ่งมาที่ 12-14% หลังราคาน้ำมันผันผวน
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า ในปี 2554 นี้ ภาพรวมของการลงทุนด้านพลังงานทดแทน จะทำให้เห็นภาพปีกระต่ายเพชรแห่งการลงทุนด้านพลังงานทดแทนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากหลาย ๆ โครงการ จะเริ่มมีการลงทุนก่อสร้างจริง และได้เริ่มทยอยเปิดตัวโครงการนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 53 ที่ผ่านมา
โดย พพ. คาดว่า การเปิดตัวของโครงการพลังงานทดแทนต่างๆ ตลอดปี 2554 ที่ยังมีอีกหลายโครงการ ฯ จะทำให้ประเทศไทยมียอดการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานทั้งหมด โดยคาดว่าภายในปี 2554 ยอดการใช้พลังงานทดแทน มีโอกาสที่จะปรับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 12 - 14 ของการใช้พลังงานทั้งหมด
โดยในกลุ่มอุตสาหกรรมการลงทุนด้านพลังงานทดแทน ที่ถือเป็นดาวเด่น ได้แก่ กลุ่มผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ ทั้งภาคการผลิตไฟฟ้า ที่ได้รับการตอบรับด้านการลงทุนจนล้นหลาม และน้ำร้อนแสงอาทิตย์ซึ่งถือได้ว่ามีแนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยภารกิจของและมาตรการที่จะสนับสนุนพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงต่อไป เช่น การทบทวนกฎระเบียบ ที่ไม่เอื้อต่อการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านที่พักอาศัย สนับสนุนการติดตั้งใช้ระบบงานน้ำมันร้อนแสงอาทิตย์แบบผสมผสานในธุรกิจเอกชน พัฒนาต้นแบบผลิตน้ำร้อนแสงอาทิตย์ขนาดเล็กราคาประหยัด เป็นต้น
นายไกรฤทธิ์ กล่าวเพิ่มว่า ในโอกาสที่ พพ. ได้จัดงานวันสถาปนากรม ซึ่งใกล้กับวันเด็กแห่งชาติ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา จึงได้จัดกิจกรรม “พพ. อยากเห็นเด็กไทย ก้าวไกลไปกับพลังงานทดแทน" ขึ้น โดยมีการมอบสื่อการเรียนการสอนด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน ให้แก่โรงเรียนโดยรอบสถานที่ตั้งของ พพ. จำนวน 4 โรงเรียน โดยหวังว่าจะเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้เห็นคุณค่าของการใช้พลังงาน และเป็นการให้ความรู้ด้านพลังงานทดแทนที่ถูกต้องแก่เด็กนักเรียนต่อไป
---------------------------------------------------------------------
9. IEC เข้าซื้อหุ้นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ มูลค่า 147 ล้านบาท
บมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไออีซี กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด (IECG) ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 100 มีมติอนุมัติ ให้ IECG เข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท จีเดค จำกัด (GDEC) จำนวน 980,000 หุ้นหรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49.00 ของทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จากนายปัญญา วัชรบูรณ์ ในราคาหุ้นละ 150 บาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั้งสิ้น 147 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 53 โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของตนเอง
บริษัท จีเดค จำกัด ประกอบธุรกิจก่อสร้างและบริหารจัดการระบบกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเมื่อวันที่
25 มิ.ย.53 GDEC ได้เข้าทำสัญญากับเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อสิทธิในการดำเนินการกำจัดขยะเป็นระยะเวลา 25 ปี และมีโครงการที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะด้วยเทคโนโลยี Ash Melting Gasification ที่มีเตาเผาแบบ Energy Recovery ขนาดกำลังผลิต 6 เมกะวัตต์ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค