ข่าวพลังงานประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554
ESCC ENERGY News Today November 16th 2011
ประเด็นข่าว
1. กัลฟ์ เดินหน้าโรงไฟฟ้าหนองแซง ผนึก 5 สถาบันการเงิน เซ็นสัญญาเงินกู้ 37,000 ล้านบาท โชว์ศักยภาพผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่
2. ประปาไทยรุก ธุรกิจพลังงานทุ่มอีก 2.7 พันล้านซื้อหุ้น ซีเคพี
3. ดัชนี PPI เดือนต.ค.สหรัฐลดลง 0.3% หลังราคาน้ำมันเบนซินชะลอตัว
4. ทีพีไอ โพลีน มอบปุ๋ย ช่วยบำบัดน้ำเสีย
5. จีนเผยปริมาณการใช้ไฟฟ้าชะลอตัวลงในเดือนตุลาคม
6. Air Products ส่งมอบโซลูชันการใช้ออกซิเจนแบบองค์รวมในเตาหลอมให้กับบริษัท Techpack Solutions ในประเทศเกาหลี
7. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ หนุนชาวเทศบาลเมืองสระแก้วแปรรูปขยะ
8. พิชัยรับเลื่อนออกบัตรเครดิตพลังงาน
9. ธนชาตสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจพลังงาน
--------------------------------------------------------------------
***อ่านรายละเอียดข่าวด้านล่างครับ***
ท่านสามารถติดตามข่าวพลังงานย้อนหลังได้ที่ www.escctcc.com
---------------------------------------------------------------------
“รายละเอียดข่าวพลังงาน”
1. กัลฟ์ เดินหน้าโรงไฟฟ้าหนองแซง ผนึก 5 สถาบันการเงิน เซ็นสัญญาเงินกู้ 37,000 ล้านบาท โชว์ศักยภาพผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่
บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอส จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของประเทศไทย โชว์ศักยภาพเติบโตด้านพลังงาน จับมือ 5 สถาบันการเงิน ลงนามสัญญากู้เงินจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศวงเงินกว่า 37,000 ล้านบาท
นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอส จำกัด หนึ่งในบริษัทของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้มูลค่ากว่า 37,000 ล้านบาท ระยะเวลา 23 ปี แบ่งเป็น เงินบาท ร้อยละ50 และเงินเหรียญสหรัฐฯ ร้อยละ 50 กับ 5 สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)วงเงิน 12,700 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 6,700 ล้านบาท ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ แห่งญี่ปุ่น (JBIC) 8,800 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) 5,500 ล้านบาท และธนาคารมิซูโฮ คอร์ปอเรต จำกัด (MIZUHO CORPORATE BANK) 3,300 ล้านบาท สำหรับเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง กำลังการผลิต 1,600 เมกะวัตต์ ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายใหญ่หรือ Independent Power Producer (IPP) ประเภทพลังความร้อนร่วม ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan) ของกระทรวงพลังงาน โดยโรงไฟฟ้าหนองแซงจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งหมด
“ขณะนี้ โครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนด และจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ หรือ COD ได้ภายในปี 2557” นายสารัชถ์กล่าว
โครงการ โรงไฟฟ้าหนองแซง ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองกบ อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี ทางบริษัทเลือกใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เพราะเป็นพลังงานสะอาด นอกจากนี้ เรายังเลือกเทคโนโลยีระบบเจนเนอเรชั่น ถือเป็นการใช้ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะสามารถลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมได้ และจะสามารถช่วยเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนารวม 3,990 เมกะวัตต์ ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของประเทศ
------------------------------------------------------------------
2. ประปาไทยรุก ธุรกิจพลังงานทุ่มอีก 2.7 พันล้านซื้อหุ้น ซีเคพี
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)มีมติ อนุมัติให้บริษัท เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด หรือ "CKP" (ซีเคพี)จำนวน 273 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นเงิน 2,730 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับหุ้นที่บริษัท ได้มาก่อนหน้านี้จำนวน 3 ล้านหุ้น ทำให้บริษัท มีหุ้น CKP ทั้งสิ้นจำนวน 276 ล้านหุ้น รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,760 ล้านบาท หรือคิดสัดส่วนเป็นร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ CKPในการนี้ บอร์ดยังได้มีมติแต่งตั้งให้ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
สำหรับการลงทุนใน CKP เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทที่จะขยายธุรกิจไปลงทุนในด้านพลังงานทดแทน และธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และจะเป็นการช่วยเพิ่มฐานรายได้กับให้บริษัท นอกเหนือจากธุรกิจน้ำประปาและการบริหารจัดการน้ำเสียที่นิคมอุตสาหกรรมซึ่งบริษัท ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน
นายสมโพธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าขณะนี้ สถานการณ์อุทกภัยจะยังไม่สิ้นสุด บริษัท ก็ยังคงเดินเครื่องผลิตน้ำประปาได้เต็มกำลัง 100% เพื่อจ่ายให้ประชาชนใน 3 จังหวัดที่ภาครัฐให้รับผิดชอบ ประกอบด้วย ปทุมธานี นครปฐม และสมุทรสาคร โดยยอดจ่ายน้ำของทั้ง 3 พื้นที่อยู่ที่เกือบ 700,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน แบ่งเป็นพื้นที่ปทุมธานีจำนวน กว่า 350,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และนครปฐม-สมุทรสาคร จำนวนกว่า 340,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน บริษัทพร้อมจ่ายน้ำทันทีที่นิคมฯ ดำเนินการฟื้นฟูแล้วเสร็จ
-----------------------------------------------------------------
3. ดัชนี PPI เดือนต.ค.สหรัฐลดลง 0.3% หลังราคาน้ำมันเบนซินชะลอตัว
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.1% เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินและสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค อาทิ รถยนต์และเสื้อผ้า ปรับตัวลดลง
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ทรงตัวในเดือนต.ค. หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเบนซินลดลง 2.4% และราคาเสื้อผ้าลดลง 1.3% อย่างก็ตาม ราคาเครื่องดื่มแอกอฮอล์และของเล่นเด็ก ปรับัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ราคารถยนต์นั่งโดยสารลดลง 0.8% แต่ราคาอาหารปรับตัวขึ้น 0.1%
ส่วน ในช่วงเวลา 12 เดือนซึ่งสิ้นสุดเดือนต.ค.นั้น ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 5.9% ชะลอตัวลงจากตัวเลขสิ้นสุด ณ เดือนก.ย. ซึ่งอยู่ที่ 6.9%
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี ราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป จะทรงตัวในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. และดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. หลังเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย.
------------------------------------------------------------------
4. ทีพีไอ โพลีน มอบปุ๋ย ช่วยบำบัดน้ำเสีย
นาย ประทีป เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) (ที่ 3 จากขวา) มอบปุ๋ยทีพีไอม่วง (โกรออแกนิค) จำนวน 10,000 ลิตร ให้กับ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่กระทรวงพลังงาน เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือให้กับประชาชนที่กำลังเดือดร้อนกับปัญหาน้ำเน่าเสียจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้
------------------------------------------------------------------
5. จีนเผยปริมาณการใช้ไฟฟ้าชะลอตัวลงในเดือนตุลาคม
สำนักงานพลังงานแห่งชาติจีน (NEA) เปิดเผยว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของจีนเพิ่มขึ้น 11.35% ในเดือน ตุลาคม จากปีก่อน แต่ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 12.2% ในเดือนกันยายน โดยแถลงการณ์บนเว็บไซต์ของ NEA ระบุว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของจีนแตะที่ 3.797 แสนล้านกิโลวัตต์ในเดือนตุลาคม
ส่วนในช่วง 10 เดือนแรกของปี แถลงการดังกล่าวระบุว่า จีนมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่ 3.9 ล้านล้านกิโลวัตต์ เพิ่มขึ้นในอัตรา 11.87% ต่อปี
ในช่วงดังกล่าว อุตสาหกรรมตติยภูมิ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมบริการ มีอัตราการใช้ไฟต่อปีสูงที่สุดที่ 13.62% จากปริมาณการใช้โดยรวมที่ 4.252 แสนล้านกิโลวัตต์
นอกจากนี้ NEA ยังระบุว่า อุตสาหกรรมปฐมภูมิมียอดการใช้ไฟทั้งสิ้น 8.72 หมื่นล้านกิโลวัตต์ในระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ จีนลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าไปทั้งสิ้น 2.76 แสนล้านหยวน (4.353 หมื่นล้านดอลลาร์) ในระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคมปีนี้ แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 7.08 หมื่นล้านหยวน โรงไฟฟ้าพลังความร้อน 8.18 หมื่นล้านหยวน โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ 6 หมื่นล้านหยวน และ โรงไฟฟ้าพลังลม 5.5 หมื่นล้านหยวน สำนักข่าวซินหัวรายงาน
------------------------------------------------------------------
6. Air Products ส่งมอบโซลูชันการใช้ออกซิเจนแบบองค์รวมในเตาหลอมให้กับบริษัท Techpack Solutions ในประเทศเกาหลี
นวัตกรรมเทคโนโลยีการเผาไหม้นี้มีคุณสมบัติเด่นหลายประการตั้งแต่การปล่อยมลภาวะที่ลดลง ไปจนถึงประสิทธิภาพในการผลิตที่เพิ่มขึ้น ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย รวมถึงให้คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น
ในวันนี้ Air Products (NYSE: APD) ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการเผาไหม้แบบใช้ออกซิเจนและเป็นผู้ส่งมอบโซลูชันให้กับอุตสาหกรรมแก้วทั่วโลกได้แถลงว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาจัดส่งโซลูชันแบบใช้ออกซิเจนแบบองค์รวมรวมให้กับบริษัท Techpack Solutions ในประเทศเกาหลี เพื่อช่วยลดการปล่อยมลภาวะและเพิ่มประสิทธิภาพในด้านพลังงานและการผลิตแก้วสำหรับภาชนะและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร
ภายใต้สัญญานี้ Air Products จะส่งมอบหัวเผาแบบใช้ออกซิเจนรุ่น Cleanfire(R) HRi(TM) และระบบควบคุมการไหลของออกซิเจน โดยบริษัทจะติดตั้งเครื่องผลิตออกซิเจน (VSA) รุ่น Prism(R) ที่หน่วยงานของ Techpack Solutions เพื่อผลิตออกซิเจนในราคาประหยัดและมีความน่าเชื่อถือสูงในหน่วยงานของลูกค้าเพื่อใช้กับหัวเผาแบบใช้ออกซิเจนสำหรับการหลอมแก้ว
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 50 ปีในด้านเทคโนโลยีแบบใช้ออกซิเจน Air Products นำเสนอโซลูชันการใช้ออกซิเจนแบบองค์รวมที่มีตั้งแต่การผลิตก๊าซไปจนถึงหัวเผาและเทคโนโลยีแบบใช้ออกซิเจน ระบบการควบคุมที่สามารถออกแบบตามความต้องการของลูกค้า ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการออกแบบ การติดตั้งและเริ่มเดินระบบ การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติงานที่หน่วยงานของลูกค้า สัญญาการบำรุงรักษาและการจัดการ โครงการ Air Products ได้ติดตั้งหัวเผา Cleanfire มาแล้วมากกว่า 1,500 เครื่องทั่วโลก เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการทำสัญญาจัดส่งโซลูชันแบบใช้ออกซิเจนให้กับผู้ผลิตไฟเบอร์กลาสรายหนึ่งในประเทศจีน ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.airproducts.com/industries/GlassMinerals.aspx
ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีการเผาไหม้ของเรา เทคโนโลยีแบบใช้ออกซิเจนนำมาซึ่งคุณประโยชน์มากมาย เช่นลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ได้มากถึง 80% เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตประมาณ 25% ลดต้นทุน ประหยัดพลังงานได้ 25-60% รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและการเพิ่มคุณภาพของกระจกอีกด้วย
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ Techpack Solutions เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยในการปรับเปลี่ยนระบบการหลอมไปสู่การเผาไหม้แบบใช้ออกซิเจน” Richard Huang ผู้จัดการฝ่ายอุตสาหกรรมในเอเชียสำหรับอุตสาหกรรมแก้วของ Air Products กล่าว “เนื่องจากกฎหมาย Low Carbon Green Growth Law ใหม่ของประเทศเกาหลีใต้และความต้องการในตลาดที่สูงขึ้น ผู้ผลิตแก้วในประเทศเกาหลีจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีแบบใช้ออกซิเจนในการลดการปล่อยมลภาวะและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไปพร้อมกัน Air Products คือผู้นำในนวัตกรรมเทคโนโลยีนี้ด้วยผลงานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านแก้วของเราจะช่วยให้ผู้ผลิตแก้วในเอเชียเติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
Techpack Solutions ก่อตั้งในช่วงกลางทศวรรษที่ 1950 และเป็นผู้นำในด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์ในประเทศเกาหลีใต้ และเป็นผู้ผลิตขวดแก้วรายใหญ่ที่สุดของประเทศ บริษัทผลิตภาชนะแก้วหลากหลายประเภทสำหรับอาหาร เครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมทางการแพทย์
เกี่ยวกับ Air Products
Air Products (NYSE:APD) ให้บริการลูกค้าในตลาดอุตสาหกรรม พลังงาน เทคโนโลยี และการดูแลสุขภาพทั่วโลกด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ก๊าซในชั้นบรรยากาศ ก๊าซในกระบวนการผลิต และก๊าซพิเศษ รวมถึงอุปกรณ์และการให้บริการต่างๆ ก่อตั้งในปี 1940 Air Products ได้ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดหลักต่างๆ ที่มีการเติบโต เช่น วัสดุเซมิคอนดักเตอร์ ไฮโดรเจนสำหรับโรงกลั่นน้ำมัน บริการดูแลสุขภาพในครัวเรือน การเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติเป็นของเหลว และวัสดุสำหรับการเคลือบและประสาน บริษัทนี้เป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมองค์กรเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ ความเป็นเลิศในการปฎิบัติงาน และความรับผิดชอบในด้านความ ปลอดภัยและสภาพแวดล้อม ในปีงบประมาณ 2011 Air Products มีรายได้ 1.01 หมื่นล้านเหรียญ ดำเนินธุรกิจในประเทศต่างๆ กว่า 40 ประเทศ และมีพนักงาน 18,900 คนทั่วโลก ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.airproducts.com
ใน ประเทศไทย บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนของ Air Products ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2530 ปัจจุบันมีโรงแยกอากาศจำนวน 4 โรงงานซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุดในประเทศ พร้อมทั้งโครงข่ายท่อส่งกาซตลอดจนรถบรรทุกกาซเหลวที่มีระบบความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้บริการลูกค้าครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม บริษัทฯ ตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด จนได้รับรางวัลความปลอดภัยแห่งชาติถึง 3 ปีติดต่อกัน ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bigth.com
-----------------------------------------------------------------
7. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ หนุนชาวเทศบาลเมืองสระแก้วแปรรูปขยะ
นางสาวขวัญฤดี พรหมทองดี หัวหน้าโครงการพลังงานทางเลือกเพื่อสุขภาพชุมชนเมือง จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์ศึกษากสิกรรม ธรรมชาติสระแก้ว จับมือ เทศบาลเมือง (ทม.) สระแก้ว และ เครือข่ายผู้สูงอายุดอกแก้ว จัดทำโครงการพลังงานทางเลือก เพื่อสุขภาพชุมชนเมือง นำขยะไร้ค่ามาพัฒนา เป็นพลังงานทางเลือก ลดปัญหามลพิษเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เนื่องจากการขยายตัวของชุมชนเมืองใน ทม.สระแก้ว ทำให้ปริมาณการอุปโภค บริโภคเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิด ปัญหาขยะล้นเมือง ส่งผลทำให้สิ่งแวดล้อม เสื่อมโทรม แม้เทศบาลฯ จะพยายามบริหาร จัดการและกำจัดขยะด้วยการสร้างเตาเผาที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่สามารถรองรับกับปริมาณขยะอันมหาศาลได้ทัน โครงการดังกล่าว จึงจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้สมาชิก ในชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและดูแลท้องถิ่นของตนเอง โดยเริ่มต้นจากการนำขยะไร้ค่ามาแปรเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้พัฒนาพลังงานทางเลือกที่เหมาะสำหรับชุมชน
-----------------------------------------------------------------
8. พิชัยรับเลื่อนออกบัตรเครดิตพลังงาน
"พิชัย" ยันเดินหน้าออกบัตรเครดิตพลังงานตามเดิม แต่วันเปิดเลื่อนไปเป็น 15 ธ.ค. อ้างเหตุน้ำท่วม ด้าน ปตท.เตรียมขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี 16 ม.ค.55 จนสะท้อนต้นทุนแท้จริง หวังลดภาระขาดทุนปีละ 10,000 ล้านบาท
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเปิดสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี สาขานิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ว่า กระทรวงพลังงานยืนยันจะไม่เปลี่ยนแปลงแผนโครงการบัตรเครดิตพลังงาน ที่กำหนดไว้แต่เดิมจะออกบัตรเครดิตพลังงานได้ในวันที่ 1 ธ.ค.2554 แต่จากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ การออกบัตรเครดิตพลังงานจึงต้องล่าช้าออกไป แต่ไม่เกินวันที่ 15 ธ.ค.2554 โดยจะเริ่มเปิดให้ลงทะ เบียนในวันที่ 1 ธ.ค.2554
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่มีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในช่วงกลางเดือน ม.ค.2555 โดยจะมีการทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกเอ็นจีวีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงที่ระดับ 14.50 บาทต่อกิโลกรัมนั้น ก็จะช่วยลดภาระขาดทุนของ ปตท.จากปัจจุบันมีภาระขาดทุนอยู่ปีละ 10,000 ล้านบาทลงได้ ทำให้ ปตท. สามารถลงทุนขยายปั๊มเอ็นจีวีได้คล่อง ตัวขึ้น
นายพีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังลอยตัวราคาก๊าซเอ็นจีวี ทำให้แผนการขยาย ปั๊มเอ็นจีวีของ ปตท.คล่องตัวขึ้น โดยระยะสั้นจะทยอยเพิ่มกำลังการจ่ายก๊าซเอ็นจีวีให้ได้อีก 900 ตันต่อวัน ภายในกลางปี 2555 จากปัจจุบันมีกำลังการจ่ายก๊าซอยู่ที่ประมาณ 6,900-7,000 ตันต่อวัน
ส่วนระยะยาวอีก 2-3 ปี ปตท.มีแผนที่จะขยายสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีแม่ใน 3 แห่ง ได้แก่ สถานีแม่ลานกระบือ สถานีแม่ขอนแก่น และสถานีแม่ในโรจนะ เพื่อเพิ่มกำลังการจ่ายก๊าซเอ็นจีวีในเขตภาคกลาง เหนือและอีสาน ซึ่งต้องใช้งบในการลงทุนพอสมควร โดยจะนำเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ด ปตท.เร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ปตท.มีแผนที่จะขยายปั๊มเอ็นจีวีให้ได้ 502 แห่ง ภายในปี 2555 จากปัจจุบันมีอยู่ 461 แห่ง โดยเป็นปั๊มที่ ปตท.ลงทุนเอง 70% และอนาคตก็จะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เพราะคิดว่าเอกชนเองก็มองเห็นถึงอ นาคตของธุรกิจเอ็นจีวีแล้ว เนื่องจากขณะ นี้ได้ค่าการตลาดที่ 2 บาทต่อกิโลกรัม และมีการทยอยลอยตัวราคาเอ็น จีวีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงแล้ว.
-----------------------------------------------------------------
9. ธนชาตสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจพลังงาน
นายพิสุทธิ์ อัมยงค์ ผู้บริหารกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และนายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนวงเงินสินเชื่อ เพื่อการลงทุนขยายธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ จำนวน 5 แห่ง เมื่อเร็วๆนี้
-----------------------------------------------------------------
ESCC Energy Call Center
โทรศัพท์ 0-2622-1860-76 ต่อ 312,521 และ 535
“ทุกปัญหาด้านพลังงาน เราช่วยท่านได้”
หากท่านมีความประสงค์ที่จะประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ศูนย์ฯ ยินดีเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลครับ
ขอแสดงความนับถือ
Chalermpol Sirichotiwong
Manager
Energy Saving Consultation Center
The Thai Chamber of Commerce
Tel: 0-2622-1860-70 Ext.312
Fax: 0-2622-2375
Email: escc@thaichamber.org