สำนักข่าวเนชั่น/ศูนย์ข่าวภูมิภาค : หอการค้าฯตาก เผยพม่าเปิดด่านถาวรเมียวดี-แม่สอด รับการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียวดีอย่างเป็นทางการ 5 ธ.ค. นี้ พร้อมส่งรัฐมนตรีจากรัฐบาลพลเรือนเป็นประธานเปิด ส่งเทียบเชิญหน่วยงานรัฐ-เอกชนในพื้นที่ไปร่วมงาน ชี้พม่าเปิดด่านหลังปิดยาวนานนับปีเศษ ส่งสัญญาณเปิดกว้างการค้า-การลงทุน รับเออีซี -ขึ้นแท่นประธานอาเซียนปี 55

3 ธ.ค.54-นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้า จ.ตาก เปิดเผยว่า ตามที่ฝ่ายพม่าเตรียมเปิดด่านถาวร บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ที่อ.แม่สอด จ.ตาก ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 นี้ หลังปิดพรมแดนไปตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2553 ส่งผลให้มูลค่าการค้าผ่านด่านศุลกากรแม่สอดหายไปกว่า 2 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นฝ่ายไทยได้รับการประสานเรื่องการเปิดด่านถาวรเพื่อรับการเปิดเขต เศรษฐกิจพิเศษเมียวดี แต่ยังไม่ทราบกำหนดการชัดเจนแต่เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นของพม่าแจ้งว่าจะมี พิธีเปิดอย่างแน่นอนในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ รัฐบาลกลางพม่าได้ส่งรัฐมนตรีจากกรุงเนย์ปีดอร์เดินทางมาเป็นประธานในพิธี เปิดครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ฝ่ายพม่าได้ประสานงานงานมาเพื่อ เชิญหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในจ.ตากไปร่วมงานจำนวน 20 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อแจ้งกลับไปแต่เท่าที่ทราบยังไม่มีการเชิญ รัฐบาลไทย ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ หรือรัฐมนตรีพาณิชย์ไทยไปร่วมงาน คาดว่าอาจมีเหตุขัดข้องภายในทั้งนี้หอการค้าฯอยากให้มีการเชิญผู้นำหรือ รัฐมนตรีของรัฐบาลไทยไปร่วมงานครั้งนี้ด้วย เนื่องจากรัฐบาลมีส่วนในการประสานงานและเจรจาเพื่อขอให้ฝ่ายพม่าเปิดด่าน ถาวร
นายบรรพต กล่าวว่า การที่พม่ากลับมาเปิดด่านถาวร บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ที่อ.แม่สอด จ.ตากอีกครั้งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และมั่นใจว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้มูลค่าค้าผ่านด่านศุลกากรแม่สอดจะเพิ่มสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท การตัดสินใจเปิดด่านถาวรของพม่าหลังปิดไปยายนานว่า 1 ปีเศษ เพื่อเตรียมรับกับการก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2558 รวมทั้งในปี 2555 พม่าจะเป็นประธานอาเซียนด้วย
"เห็นได้ชัดว่าพม่ากำลังเปิดกว้างเรื่องการ ค้าและการลงทุนหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางไปเยื่อนพม่าเพื่อพบปะผู้นำพลเรือนของรัฐบาลพม่าอย่างเป็นทางการ ในรอบ 50 ปี"นายบรรพตกล่าว
นายบรรพต กล่าวอีกว่า ภาคเอกชนคาดว่าการเปิดด่านครั้งนี้จะทำให้การค้าและการลงทุนระหว่างไทย-พม่า ด่านอ.แม่สอด จ.ตากกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งตั้งแต่พม่าส่งสัญญาณว่าจะเปิดด่านผู้ประกอบการค้าก็เริ่มเตรียมความ พร้อมรับการเปิดด่านกันอย่างคึกคัก และคาดว่าผู้ประกอบการที่เคยเปลี่ยนเส้นทางไปส่งสินค้าไปพม่าผ่านเส้นทาง อื่นจะกลับมาใช้เส้นทางการขนส่งผ่านด่านศุลกากรแม่สอดใหม่ เพราะถือเป็นเส้นทางโลจิสติกส์ทางบกที่มีต้นทุนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับเส้น ทางอื่นๆ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ภาคเอกชนกังวลในเวลานี้ คือ ความก้าวหน้าเรื่องการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเพราะพม่าก้าวหน้ากว่าเรา ไปมาก มีการพัฒนาพื้นที่และเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษก่อนฝ่ายไทยแล้ว หลังจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมามีการผลักดันอนุมัติให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจ พิเศษขึ้นมา แต่ไม่ทราบว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสานต่อนโยบายดังกล่าวอยู่หรือไม่หรือจะเปลี่ยน แนวทางการผลักดันใหม่ หอการค้าฯจะรอดูทิซทางความชัดเจนเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหลังสถานการณ์น้ำ ท่วมกลับสู่ภาวะปกติ