สรุปสาระสำคัญการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ปีท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋อย่างยั่งยืน : Amazing Thailand Tourism Year 2018”

สรุปปาฐกถาพิเศษ
เรื่อง “ปีท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋อย่างยั่งยืน : Amazing Thailand Tourism Year 2018”
โดย คุณกอบกาญจน์ วัฒนาวางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
18 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงแรมไดมอน พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ยุทธศาสตร์ของการท่องเที่ยว ถือเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวนั้น ได้มองอย่างรอบด้านทั้งตามยุทธศาสตร์ (Agenda Based) มิติกระทรวง (Function Based) มิติพื้นที่ (Area Based) เพื่อให้การท่องเที่ยวเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทยกว่า 2.55 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด 1.8 ล้านคน รองลงมา ได้แก่ นักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป เอเชียใต้ อเมริกา โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง ขยายตัวร้อยละ 5.40 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และก่อให้เกิดรายได้รวม 1.33 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.91 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่คนไทยเที่ยวไทยภายในประเทศ ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น สร้างรายได้รวม กว่า 6 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.18 ซึ่งถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างมาก
ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวได้จัดโครงการ "เมืองต้องห้าม...พลาด" คัดสรร 12 เมืองทางเลือกจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศเชื่อมโยงท่องเที่ยวเมืองหลักเดิม เน้นจุดเด่นศักยภาพจังหวัดที่มีความพร้อม ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, วิถีชีวิต และศิลปวัฒนธรรมซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงได้ต่อยอดด้วยโครงการ “12 เมืองต้องห้าม…พลาด Plus” คือเพิ่มอีก 12 เมือง เป็นเมืองคู่แฝด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน ซึ่งได้รับความนิยมและสามารถสร้างและกระจายรายได้เป็นอย่างดี
การสร้างโอกาสด้านการท่องเที่ยว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับเปลี่ยนมุมมอง มองในสิ่งเดิมแต่ในมุมมองใหม่ มองให้ลึกและให้เห็นความแตกต่าง เพื่อสะท้อนความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์และแหล่งท่องเที่ยวออกมาให้น่าสนใจ ภาคเอกชนอย่างหอการค้าและนักธุรกิจรุ่นใหม่ (YEC) ซึ่งมีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านบริหารจัดการ และนำนวัตกรรมใหม่เข้ามาสนับสนุนให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ ๆ จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดและชุมชนของตนเอง เพื่อสร้างและกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน จึงขอฝากให้เป็นภาระกิจของชาวหอการค้าทุกคน ที่จะเป็นพลังในการขับเคลื่อนท่องเที่ยวชุมชนและเชื่อมต่อกับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของชาติ ต่อไป
ในปี 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ส่งเสริมให้เป็น “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” หรือ “Amazing Thailand Tourism Year 2018”เพื่อเน้นย้ำให้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่เกื้อกูลเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและมีความพร้อมบนพื้นฐานของเอกลักษณ์ไทย ซึ่งสอดคล้องกับกระแสความต้องการของประชากรโลก อีกทั้งสอดรับกับเจตนารมย์ขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO)มุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวคุณภาพ แต่ยังคงรักษาฐานนักท่องเที่ยวตลาดเดิม สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม สนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน โดยยกระดับและเพิ่มมูลค่าทางการท่องเที่ยวให้กับชุมชนทั่วประเทศ อันจะเป็นการวางรากฐานของเศรษฐกิจในภาพรวม
สำหรับกิจกรรม ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืนนั้น ประกอบด้วย 15 กิจกรรม
7 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1) การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism)
2) การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)
3) การท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism)
4) การท่องเที่ยวเพื่อการแต่งงานและการฮันนีมูน (Wedding & Honeymoon Tourism)
5) การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism)
6) การท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism)
7) การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ (Leisure Destination)
8 กิจกรรมเสริม ได้แก่
1) การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Green Tourism)
2) การท่องเที่ยวยามค่ำคืน (Night Tourism)
3) การท่องเที่ยวในธุรกิจไมซ์ (MICE Tourism)
4) การจัดงานแสดงสินค้า (Trade Fair)
5) การจัดกิจกรรมการตลาดระหว่างธุรกิจกับธุรกิจที่ต่างประเทศ (B2B Marketing Activity Aboard)
6) การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว (Logistics)
7) การเป็นเจ้าบ้านที่ดี (Human Resource Development)
8) การจัดกิจกรรมเพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Country Relationships)
ตัวอย่างกิจกรรม
การสวนสนามทางเรือนานาชาติ (The 50th Anniversary of ASEAN International Fleet Review 2017 : ASEAN IFR 2017) โดยกองทัพเรือจะเชิญกองทัพเรือจากประเทศสมาชิกอาเซียนและนอกอาเซียนรวมกว่า 30 ประเทศ จัดสวนสนามเรือรบที่ทันสมัยและมีสมรรถนะสูงกว่า 40 ลำ โดยกำหนดจัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน นี้ ณ บริเวณอ่าวพัทยา เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
การแข่งขันการบิน AIR RACE 1 THAILAND ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย การแข่งขันเครื่องบินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ชมทั่วโลก โดยมีนักกีฬาและผู้ติดตามชมการแข่งขันจากต่างประเทศเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย ทั้งด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยจัดขึ้นในวันที่ 19 - 20 พฤศจิกายนนี้ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
การจัดแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโต จีพี ในปี 2561 – 2563 เป็นระยะเวลา 3 ปี ส่งผลให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 19 สนามแข่งขันทั่วโลก กำหนดจัดการแข่งขันในเดือนตุลาคมปี 2561 ณ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งปัจจุบัน Moto GP มีการติดตามชมกว่า 800 ล้านคน จาก 207 ประเทศทั่วโลก และคาดว่าจะมีผู้ชมการแข่งขันในประเทศไทยกว่า 2 แสนคน มีเงินหมุนเวียนกว่า 1 พันล้านบาท
งาน UNWTO World Forum on Gastronomy Tourism ครั้งที่ 4 เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยและองค์การการท่องเที่ยวโลก จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2561 โดยถือเป็นโอกาสเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย ในรูปแบบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ร้านอาหาร โรงแรม แหล่งผลิตวัตถุดิบ ต่อไป
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านวัฒนธรรม ประเพณีการละเล่นของท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน อาทิ เทศกาลลอยกระทง ตรุษจีน สงกรานต์ ประเพณีเชิงศาสนา อาทิ เข้าพรรษา ออกพรรษา ฮารีรายอ ซึ่งจัดขึ้นทั่วประเทศตลอดทั้งปี รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่มีความสวยงามตามฤดูกาล
การจัดกิจกรรมปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน เปิดตัวเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 โดยมีขบวนแห่พิธีเปิด “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” เพื่อเป็นการแสดงความพร้อมของประเทศไทย ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นำเสนอกิจกรรมทางวัฒนธรรม ประเพณี และเทศกาลระดับโลก ภายในประเทศตลอดทั้งปี มีขบวนแห่ 6 ขบวนหลัก ได้แก่
1) ขบวนตราสัญลักษณ์ “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน”
2) ขบวนประเพณีไทย 5 ภาค
3) ขบวนอรรถรสไทย
4) ขบวนสีสันเทศกาล
5) ขบวนกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว
6) ขบวนเจ้าบ้านที่ดี
ปัจจุบันหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัด ร่วมจัดทำโครงการหนึ่งหอการค้าหนึ่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน สอดรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ขอให้ตระหนักถึงการสร้างความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ การสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชนนั้น ควรคำนึงถึง 4 ประเด็น คือ
1) การมีส่วนร่วมของชุมชนต้องร่วมคิดร่วมทำไปด้วยกัน
2) การเฉลี่ยรายได้อย่างสมดุลและเป็นธรรมในชุมชน
3) การบริหารจัดการมลภาวะและสิ่งแวดล้อม อาทิ ขยะ น้ำเสีย
4) การเติบโตอย่างยั่งยืน
ท้ายสุดนี้ ขอบคุณหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ที่ทุ่มเทและมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการค้าและการบริการ ให้ก้าวหน้าและเติบโตไปด้วยกัน ในส่วนภาครัฐเองก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกรูปแบบ และเชื่อว่าพลังของชาวหอการค้าจะสามารถสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น สามารถกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน