ฟื้น R3b เชื่อมโยงไทย-พม่า-จีน คำตอบสุดท้ายยู่ที่'จีน'
Source - ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 13 - 15 ก.ย. 2550
หากกล่าวถึงเส้นทางเชื่อมไทยสู่จีนตอนใต้ในขณะนี้ ชื่อของเส้นทางอาร์3เอ(R3a) ซึ่งเชื่อมไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ กำลังอยู่ในกระแสอย่างมาก แม้ยังยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ในทางกลับกันถนนสายอาร์3บี(R3b) ซึ่งเชื่อมไทย-พม่า-จีนตอนใต้ ที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณืแล้วตั้งแต่ปี 2547 กลับเงียบหายไป ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยบูมมาก่อน จนทางการพม่าต้องเร่งออกโรงฟื้นฟูการค้าผ่านเส้นทางอาร์3บีขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะถูกกระแสความบูมของเส้นทางอาร์3เอกลบ
ไทยลงทุนไปแล้วนับพันล้าน
ในส่วนของประเทศไทยได้มีโครงการรองรับถนนสายนี้อย่างคึกคัก เริ่มจากโครงการการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งกรมทางหลวงรับผิดชอบงบประมาณก่อสร้างเป็นสะพานขนาด 2 ช่องจราจร กว้าง 14.7 เมตรยาว 90 เมตร เชื่อมระหว่างบ้านสันผักฮี้(ไทย)กับบ้านแม่ขาว(พม่า) โครงการก่อสร้างสะพานและถนนทั้งฝั่งไทยและพม่าใช้งบประมาณในการก่อสร้างสะพานรวมกับถนนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 41.412 ล้านบาท โดยเป็นฝ่ายไทยที่ผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดแต่เพียงฝ่ายเดียว หลังจากสร้างสะพานเสร็จประเทศไทยได้มีการจัดสร้างอาคารด่านศุลกากรชั่วคราวทั้งสองฝั่งมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ และในวันที่ 22 มกราคม 2549 นายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้ร่วมกับนายญาน วิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพม่า ร่วมกันเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อย่างเป็นทางการ
พร้อมกันนั้นในฝั่งไทยยังได้มีการเตรียมความพร้อมภายในบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อีกมากมาย เริ่มจากการว่าจ้าง หจก.เวียงพานทวีภัณฑ์ ปรับที่ถมดินและทำรั๋วในพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ในวงเงิน 38 ล้านบาท หลังจากนั้นยังได้เปิดประมูลก่อสร้างอาคารที่ทำการด่านศุลกากรแม่สายแห่งที่ 2 พร้อมอาคารประกอบวงเงินงบประมาณ 380 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจำกัดมหาชนพั?น์กลเป็นผู้ประมูลไปได้ ขณะนี้มีความคืบหน้ามากแล้วคาดว่าภายในกลางปี 2551 โครงการจะแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ โดยโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องยกระดับการค้าชายแดนของไทย ภายในโครงการนอกจากอาคารที่ทำการด่านศุลกากรแล้ว ยังมีด่านพรมแดน ลานขนถ่าย บรรจุ และตรวจปล่อยสินค้าขอออก(OCD) ลานขนถ่าย บรรจุ และตรวจปล่อยสินค้าขาเข้า(ICD) การติดตั้งเครื่อง เครื่อง X-Ray รถยนต์และรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ มูลค่า 200 ล้านบาท ขณะที่กรมทางหลวงเองก็เดินหน้าโครงการสร้างถนนเลี่ยงเมืองแม่สายระยะที่ 1 และโครงการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองระยะที่ 2 เพื่อเชื่อมสะพานกับถนนพหลโยธินที่บ้านจ้อง ตำบลโป่งผา ก่อนถึงตัวอำเภอแม่สายประมาณ 5 กิโลเมตรมูลค่าโครงการไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าดูเหมือนงานทุกอย่างจะเดินหน้าไปด้วยดี แต่ก็ยังคงมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง ในส่วนของที่ดินซึ่งไม่สามารถเจรจาขอซื้อได้ทั้งภายในโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรและถนนเลี่ยงเมือง บทสรุปเรื่องนี้แม้ว่าจะชัดเจนแล้วว่าต้องใช้การเวณคืนแต่ขั้นตอนต่างๆ ยังต้องใช้เวลาอีกมาก
"การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่าจะให้เป็นสะพานเพื่อการพาณิชย์อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นส่วนประกอบต่างๆ ภายในพื้นที่ 200 ไร่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 จึงประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับการค้าระหว่างประเทศ" นายชูชัย อุดมโภชน์ นายด่านศุลกากรแม่สายระบุ
สารพัดปัญหาบนอาร์3บี
ในช่วงที่การก่อสร้างถนนอาร์3บีแล้วเสร็จใหม่ๆ การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างเส้นทางเชียงราย-แม่สาย-เชียงตุง-เมืองลา-เชียงรุ่งได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นมีรถโดยสารโค้ชปรับอากาศ รถตู้ รถขับเคลื่อน4ล้อ นำนักท่องเที่ยวผ่านเส้นทางสายนี้มาแล้วนับหมื่นคน ถือว่าในมุมมองของการท่องเที่ยวถนนอาร์3บีประสบความสำเร็จสร้างกระแสได้เป็นอย่างดี ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการขนส่งสินค้าที่พบว่า มีปัญหาและอุปสรรคมากมาย เช่น เจ้าหน้าที่พม่าไม่อนุญาตให้รถยนต์บรรทุกสินค้าแบบตู้คอนเทนเนอร์เข้า-ออก ทางชายแดนด้านนี้ ผู้นำเข้า-ส่งออก จำเป็นต้องใช้รถยนต์บรรทุกสินค้าแบบกระบะคลุมผ้าใบแทนซึ่งเสี่ยงต่อสินค้าจะเสียหาย โดยเฉพาะในฤดูฝน แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุด ก็คือ การขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่างไทย-จีน ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าผ่านด่านที่สูงมากเฉลี่ย 40,000-60,000 บาทต่อ 1 คันรถบรรทุก
แม้ว่าล่าสุดจากการประชุมร่วมกันระหว่างหอการค้าจังหวัดเชียงรายกับหอการค้าจังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้รับสัญญาณที่ดี คือ ประเทศพม่าได้ลดภาษีต่อสินค้าผ่านแดนไทย-พม่า-จีนจาก 5% เหลือ เพียง 4% แล้ว และในอนาคตจะมีการทยอยลดลงเรื่อยๆ จนถึงระดับสากล ส่วนปัญหาเรื่องค่าผ่านด่านที่สูงมากนั้น จะเหลือด่านตรวจสินค้าเหลืออยู่เพียง 3 จุดเท่านั้น คือ ที่ท่าขี้เหล็ก โดยจุดนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบศุลกากรและการเข้าออกเมืองของจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก จุดที่สองที่ด่านท่าล้อห่างจากท่าขี้เหล็กไปตามถนนอาร์3บีประมาณ 30 กิโลเมตร และจุดสุดท้ายที่เมืองเชียงตุงห่างจาก ท่าขี้เหล็กไปตามถนนอาร์3บี ประมาณ 168 กิโลเมตร โดยด่านตรวจจะจัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับรถขนาดเล็กเพียง 26 บาท ส่วนรถใหญ่บรรทุก 20 ตันขึ้นไปจะเก็บคันละ 2,000 บาทต่อครั้ง สัญญาณดีที่เกิดขึ้นนี้ แม้ว่าจะเป็นการจุดประกายที่จะได้เห็นการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางอาร์3บีอีกครั้ง
แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าด่านพรมแดนระหว่างเมืองลา-ต้าลั้วนั้น ยังไม่เป็นด่านสากล เพราะฉะนั้ยนการเข้าออกจึงเป็นไปอย่างเข้มงวด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทางด้านอาร์3เอ แล้ว ด่านพรมแดนลาว-จีน (บ่อหาน-บ่อเต็น) จะมีความสะดวกมากกว่า เนื่องจากได้รับการยกระดับให้เป็นด่านสากลแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงการค้าของพม่าเองก็กำลังหาทางเร่งเจรจากับรัฐบาลจีน เพื่อที่จะยกระดับด่านเมืองลา-ต้าลั้วให้เป็นด่านสากลพร้อมสำหรับการการเป็นเส้นทางสำหรับการท่องเที่ยวและเส้นทางเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง
ต้องเจรจาไตรภาคี
ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน ก็คือ ต้องมีกติกาการใช้เส้นทาง ซึ่งแม้ว่าจะมีการก่อสร้างถนนเสร็จและเปิดใช้มาแล้วกว่า 2 ปี แต่ไม่เห็นการหารือร่วมกันระหว่างไทย-พม่า-จีนถึงข้อตกลงในการขนส่งสินค้าบนถนนอาร์3บีให้เข้าสู่ระบบสากล ซึ่งแนวทางการเจรจา จะต้องเป็นการเจรจาตกลงเพื่อการลดภาระค่าธรรมเนียมระหว่างผ่านด่านสำหรับสินค้าผ่านแดนเจรจาตกลง เพื่อพัฒนาระเบียบปฏิบัติพิธีการศุลกากรเกี่ยวกับสินค้าผ่านแดน อาทิ การให้แบบ INVOICE ร่วมกัน การร่วมกันปฏิบัติพิธีการแบบ Single Window ลักษณะแบบศูนย์ One Stop Service และ Single Inspection ณ ด่านศุลกากรแม่สายแห่งที่ 2 โดยรัฐบาลไทยจัดงบประมาณสำหรับก่อสร้างศูนย์บริการเบ็ดเสร็จในพื้นที่บริเวณด่านศุลกากรแม่สายแห่งที่ 2 ไว้แล้ว เมื่อสามารถบรรลุข้อตกลงต่างๆ ได้แล้ว การที่จะเจรจาเพื่อให้จีนยกระดับด่านต้าลั้ว-เมืองลาให้เป็นด่านสากลน่าจะทำได้ง่ายขึ้น ซี่งในเรื่องของการเจรจานี้จำเป็นที่รัฐบาลไทยและรับบาลพม่าจะต้องเป็นผู้เริ่ม เนื่องจากรัฐบาลจีนในขณะนี้กำลังให้ความสำคัญและมุ่งความสนใจไปที่ช่องทาง อาร์3เอ เชื่อมโยงจีน-สปป.ลาว-ไทย โดยที่ผ่านมาแม้ว่าการก่อสร้างถนนจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่ว่าได้มีการลงทุนของนักลงทุนจีนมากมายในเมืองชายแดนระหว่างจีน-สปป.ลาวรวมทั้งเมืองที่ลึกเข้ามาชั้นในอย่างแขวงหลวงน้ำทา ซึ่งต้องรอดูว่าจีนจะให้ความสำคัญกับพม่าในเรื่องนี้อย่างไร
แนะต่อยอดบุกเอเชียใต้
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ฝ่ายการค้าชายแดน กล่าวว่า เส้นทางอาร์3บี นอกจากจะเชื่อมโยงไทย-พม่า-จีนตอนใต้ได้แล้ว ยังเป็นการจุดประกายที่จะต่อยอดไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศเอเชียใต้ทั้งอินเดีย ปากีสถาน เนปาลได้อีกด้วย เพียงแค่ลงทุนพัฒนาเส้นทางระหว่างเชียงตุง-มัณฑะเลย์ที่มีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ลาดยางให้เป็นถนนมาตรฐาน ซึ่งตลาดเอเชียใต้ในความเห็นของตนแล้วเป็นตลาดที่สินค้าไทยมีโอกาสที่จะแทรกเข้าไปในตลาดที่เปิดกว้างอยู่มาก
"การขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีนบนถนนอาร์3บี คงจะเป็นไปได้น้อยในทางปฏิบัตื เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าการลงทุนต่างๆ ของจีนได้ทุ่มไปทางอาร์3เอ ทั้งหมดแล้วในปัจจุบัน การเปิดด่านเมืองล่า-ต้าลั้วจะเกิดประโยชน์กับไทยและพม่าที่จะขนสินค้าขึ้นไปอย่างแน่นอน โดยเฉพาะพม่าที่ต้องการนำสินึค้าอาหารทะเลสดของตนไปขายในจีนตอนใต้ เพราะฉะนั้นเชื่อว่าพม่าจะเดินหน้าเรื่องนี้เต็มที่แน่นอน" นายบุญธรรม กล่าว
ดึงหอการค้ายูนนานเป็นพันธมิตร
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับหอการค้าจังหวัดท่าขี้เหล็ก ชี้ว่า นักธุรกิจในจังหวัดท่าขี้เหล็กอยากเห็นการใช้ประโยชน์จากเส้นทางอาร์3บีตามที่ควรจะเป็น มีการหารือกันหลายครั้งในเรื่องนี้ในการประชุมร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงราย เนื่องจากได้มองเห็นแล้วว่าในความเป็นจริงแล้วมีความพร้อมมากที่สุด เนื่องจากในไทยได้ลงทุนสร้างทุกอย่างไว้รองรับหมดแล้วทั้งการขนส่งสินค้าแบบธรรมดาและการขนส่งสินค้าแบบตู้คอนเทนเนอร์ หอการค้าจังหวัดเชียงรายจะได้นำเสนอเรื่องนี้กับหอการค้าไทยเพื่อที่จะหาทางช่วยผลักดันด้วย เพื่อให้การลงทุนที่ผ่านมาเกิดประโยชน์กับประเทศมากที่สุด รวมทั้งจะได้นำเรื่องนี้หารือกับหอการค้ามณฑลยูนนานเพื่อร่วมกันผลักดันด้วย เนื่องจากในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้หอการค้าจังหวัดเชียงรายจะจัดสัมมนาเกี่ยวกับการค้าผ่านแดนที่จังหวัดเชียงราย โดยได้เชิญภาครัฐและเอกชนจาก 4 ประเทศ คือ ไทย-สปป.ลาว-พม่ามาร่วมหารือกันเพื่อกำหนดกรอบกติกาการค้าผ่านแดน
คำตอบสุดท้ายอยู่ที่จีน
จะเห็นได้ว่าทุกปัญหาจะแก้ไขได้ทันทีหากว่าทางการจีนเห็นด้วยและให้การสนับสนุน การใช้ประโยชน์จากอาร์3บีจะเกิดขึ้นเป็นจริงได้ จำเป็นที่จะต้องได้รับการสนับสนุนจากจีน ซึ่งน่าติดตามว่าไทยและพม่าจะสามารถผลักดันเรื่องนี้กับรัฐบาลจีนได้เท่าใด
ข้อมูลจากสรุปข่าวหอการค้าไทย หอการค้าจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประจำวันที่ 12 กันยายน 2550